ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจประจำปี 2562 แล้ว นอกจากรักษาศีล ทำร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ ยังละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ ก็คือการไม่เบียดเบียนและไม่ฆ่าสัตว์นั่นเอง สำหรับประเทศไทยปัจจุบัน โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครนั้น เริ่มมีบรรรดาร้านรวงต่างๆขายอาหารเจในช่วงเทศกาลกันมากขึ้น นอกจากย่านเยาวราช และศาลเจ้าพ่อเสือแล้ว ยังหาอาหารเจรับประทานกันได้สะดวกสบายกว่าแต่ก่อนมาก แม้แต่ในร้านสะดวกซื้อก็มีไว้บริการหลากหลายเมนูทีเดียว คนที่ไม่ได้เคร่งครัดกินอาหารเจทุกมื้อ ยังหันมารับประทานในบางมื้อเพราะอาหารเจหลายเมนูนั้น น่ารับประทานและรสชาติอร่อย หรือบางกลุ่มยังถือโอกาสในเทศกาลนี้หันมารับประทานเพื่อสุขภาพกันอีกด้วย ในเชิงเศรษฐกิจ มีข้อมูลที่น่าสนใจจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงาน คาดการณ์ว่า เม็ดเงินค่าใช้จ่ายตลอดช่วงเทศกาลกินเจปี 2562 ของคนกรุงเทพฯ จะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4,760 ล้านบาทขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้คนกินเจบางกลุ่มมีความตั้งใจที่จะควบคุมค่าใช้จ่าย ส่งผลให้มูลค่าการใช้จ่ายช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอาหารเจนั้น มีข้อมูลสำคัญจากผลสำรวจพฤติกรรมของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ โดยพบว่า เทศกาลกินเจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ที่สนใจบริโภคเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 20-39 ปี ซึ่งในปี 2562 นี้คาดว่าคนกรุงเทพฯ จะให้ความสนใจกินอาหารเจเช่นเดียวกับปีก่อนๆ โดยมีสัดส่วนถึง 66.7% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เทียบกับ 57.1% ของปีก่อน (ซึ่งคนกินเจที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เลือกกินบางมื้อบางวัน) จำนวนผู้ประกอบการอาหารเจที่มากขึ้น ทำให้การแข่งขันสูง ซึ่งการสร้างความหลากหลายของอาหาร เน้นประโยชน์ด้านสุขภาพ และความเหมาะสมของราคาสินค้า จะเป็นกลยุทธ์สำคัญครองใจผู้บริโภค เนื่องจากคนรุ่นใหม่ เข้ามามีบทบาทเป็นลูกค้าสำคัญในตลาดอาหารเจมากขึ้น และกลุ่มนี้มีการทำอาหารเจกินเองไม่สูงมากนัก แต่พึ่งพาร้านอาหารที่ประกอบอาหารสำเร็จรูปเป็นหลัก ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องมีการนำเสนอกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า โดยเฉพาะกลยุทธ์สำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่งกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับปัจจัยหลักๆ คือความหลากหลายของสินค้า การเน้นประโยชน์ด้านสุขภาพ รวมถึงระดับราคาที่สมเหตุสมผล โดยสอดคล้องกับผลสำรวจที่พบว่า ความหลากหลายของเมนูอาหารเจ มีผลต่อการเข้าร่วมกินอาหารเจที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงโดยมีสัดส่วนถึง 68.7 % รองลงมาคือราคาอาหารเจ 51.8% และบรรยากาศความคึกคักของเทศกาล 11.8% อื่นๆ อาทิ ความสะดวกและหาทานง่าย 12.9% ดังนั้น ปัจจัยที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจ ประสบความสำเร็จในการจับตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจกินอาหารเจ คือ การพัฒนาความหลากหลายของอาหารเจ ซึ่งควรมีรสชาติใกล้เคียงกับอาหารที่จำหน่ายทั่วไปทั้งอาหารเจแบบไทย ญี่ปุ่นหรือยุโรป รวมถึงการเพิ่มประโยชน์หรือคุณค่าทางด้านโภชนาการ การบริหารจัดการต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ด้วยการคัดเลือกวัตถุดิบ/หาแหล่งวัตถุดิบ เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำ รวมถึงการดัดแปลงวัตถุดิบในประเภทที่ราคาไม่ได้ปรับสูงขึ้นทดแทนจะเป็นข้อได้เปรียบด้านการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ขออนุโมทนาบุญไปกับผู้ที่ตั้งใจละเว้นชีวิตสัตว์ และเหนืออื่นใด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องยึดหลักพระพุทธศาสนานั่นคือ ทางสายกลาง ไม่ตึง และไม่หย่อนจนเกินไป