เสรี พงศ์พิศ www.phongphit.com เกาหลีใต้เป็นประเทศที่คนไทยรู้จักดีและสนใจมากที่สุดประเทศหนึ่ง ส่วนหนึ่งเป็นอิทธิพลของสื่อ หนังซิรีส์เกาหลี ดารานักร้อง และเทคโนโลยีที่พัฒนาเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแซงหน้าญี่ปุ่นและประเทศพัฒนาอีกหลายประเทศ คนไทยไปเที่ยวเกาหลีปีละกว่าครึ่งล้าน ไปทำงานครึ่งแสน ส่วนใหญ่ลักลอบไปและถูกส่งกลับตามข่าวปีละสองหมื่น เป็นประเทศที่ต้องการแรงงานสูงเพราะพัฒนาไม่หยุด จริงอยู่ การพัฒนามีสองด้านเสมอ ที่น่าสนใจ คือแนวทางการพัฒนาที่ดูว่ามี “ความสมดุล” และมี “คุณภาพ” ของประเทศนี้ จากงานวิจัยของอิมพีเรียลคอลเลจและองค์การอนามัยโลก ผู้หญิงเกาหลีในปี 2030 หรือประมาณอีก 13 ปีข้างหน้า จะมีอายุยืนยาวที่สุดในโลก คือกว่า 90 ปี และผู้ชายเกาหลีก็จะมีอายุว่า 84 ปี จะกลายเป็นประเทศอันดับหนึ่งของโลกแทนที่คนญี่ปุ่นที่ติดอันดับหนึ่งมานาน งานวิจัยอธิบายว่า คนเกาหลีอายุยืนยาวขึ้นเพราะคุณภาพชีวิต สวัสดิการด้านสุขภาพ การศึกษา สิ่งแวดล้อม คุณภาพของเศรษฐกิจสังคมและการเมือง การจัดการกับความเครียดและปัญหาต่างๆ สรุปเหมือนว่าคนเกาหลี “กินเป็นอยู่เป็น” มากขึ้น มีจำนวนคนอ้วนน้อยที่สุดในบรรดาประเทศพัฒนา งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า ขณะที่เกาหลีใต้พัฒนาด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตดีขึ้น สหรัฐอเมริกากลับแย่ลง แม้อายุคนอเมริกันจะยาวขึ้นเล็กน้อย แต่สถิติคนอ้วนสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่คนไม่สูงขึ้น นับเป็นประเทศเดียวในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว งานวิจัยบอกว่า น่าจะมาจากโภชนาการตั้งแต่วัยเด็ก ที่สำคัญ อเมริกาเป็นประเทศพัฒนาแล้วประเทศเดียวที่ไม่มีระบบสวัสดิการและประกันสุขภาพถ้วนหน้า จึงเห็นคนเร่ร่อนจรจัดนอนข้างถนน เข้าคิวรับอาหารจากองค์กรสงเคราะห์คนจน มีคนเจ็บป่วยหลายล้านคนที่ไม่ไปหาหมอ ไม่ไปโรงพยาบาลเพราะไม่มีประกันสุขภาพ ปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง คือ ความเหลื่อมล้ำ ประเทศใดคนรวยคนจนแตกต่างกัน คนมีโอกาสทางเศรษฐกิจสังคมแตกต่างกัน ประเทศนั้นผู้คนอายุเฉลี่ยจะสั้นกว่าประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำน้อย มีสิทธิเสรีภาพ มีประชาธิปไตย งานวิจัยบอกว่า ในปี 2030 ผู้ชายจะมีอายุยืนยาวใกล้เคียงกับผู้หญิง เพราะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ การสูบบุหรี การดื่ม อุบัติเหตุรถยนต์ การฆ่ากัน งานวิจัยนี้ได้นำปัจจัยต่างๆ ของแต่ละประเทศมาประกอบเพื่อคาดการณ์อายุขัยในอนาคต และเรียงลำดับประเทศที่ผู้คนมีอายุขัยสูงสุดใน 20 ประเทศ ยกตัวอย่าง 6 ประเทศตามลำดับสำหรับผู้หญิง คือ เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สเปน สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ส่วนผู้ชายเขาจัดอันดับไว้ คือ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ ส่วนชายญี่ปุ่นตกไปอยู่อันดับที่ 11 คงมีข้อถกเถียงถึงความน่าเชื่อถือของงานวิจัยนี้ และมีความแตกต่างจากสำนักอื่นๆ ที่ทำการศึกษาและจัดอันดับไว้เช่นเดียวกัน เช่น องค์การอนามัยโลกที่ทำไว้เมื่อปี 2015 ฮ่องกงอยู่อันดับ 1 ไทยอยู่อันดับที่ 70 อายุเฉลี่ยคนไทยชายหญิงที่ 74.9 ปี ถ้าแยกหญิงก็อยู่ที่ 78 ปี ชายอยู่ที่ 71.9 ขณะที่สหประชาชาติจัดไว้ระหว่างปี 2010-2015 ให้ไทยอยู่ที่ 92 อายุเฉลี่ย 74.14 ปี อายุหญิง 77-58 ชาย 70.83 งานวิจัยของสำนักต่างๆ ล้วนมีเครื่องมือและระเบียบวิธีทางวิชาการที่เชื่อถือได้ แต่ก็มีตัวแปรต่างๆ มากมายที่ทำมีผลที่ออกมาแตกต่างกัน แต่ก็ไม่มากนัก ทุกฝ่ายเชื่อว่า คุณภาพชีวิตของผู้คนจะดีขึ้น อายุขัยจะยืนยาวตามที่คาดการณ์ ยกเว้นว่าเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ทางลบคงเป็นเรื่องสงครามโลก ทางบวกถ้าหากมีการค้นพบวัคซีนป้องกันมะเร็งหรือโรคร้ายต่างๆ ผู้คนวันนี้มีสำนึกในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ต้องการกินผักปลอดสาร อาหารปลอดพิษ แต่ก็ต้องเผชิญกับผักผลไม้ ข้าวปลาอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษเพราะเร่งผลิตในปริมาณมาก ด้านหนึ่งผู้คนก็มีข้อมูล มีความรู้เรื่องคุณค่าอาหาร แต่อีกด้านหนึ่งก็ถูกถล่มด้วยข้อมูลการโฆษณาด้านเดียวที่มุ่งเพียงเพื่อขายของ และระบบกลไกในการควบคุมของรัฐของสังคมก็ยังไม่มีประสิทธิภาพพอ คนจำนวนมากจึงถูกครอบงำ ถูกหลอกให้กินให้ใช้ ในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่แทบผูกขาด ด้านหนึ่งสังคมไทยมีการสาธารสุขที่ดี การแพทย์ที่มีคุณภาพ ระบบประกันสุขภาพ แต่อีกด้านหนึ่งยังให้โรงพยาบาลเข้าตลาดหุ้น เป็นธุรกิจค้ากำไรไม่ต่างจากธุรกิจอื่นๆ ไม่ต่างจากคลีนิกข้างถนนที่มีรูปนางกวักเรียกแขกเรียกคนไข้ จึงเกิดกรณีหมอเลี้ยงไข้ เกิดโรคเครียดโรคหัวใจเพราะเห็นบิลค่ารักษา เกาหลีไม่ได้ดีไปทุกอย่าง แต่คนไทยก็ไม่ควรสนใจแต่ซัมซุง ดาราหรือกิมจิ ดูดีๆ มีระบบเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ที่เขาพัฒนาอย่างมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน มีประชาธิปไตยที่คนไทยได้แต่ฝันหา