ดร.วิชัย พยัคฆโส
[email protected]
มีการพูดถึงหนี้สาธารณะกับหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าประชาชนจะมีอันเป็นไปเสียก่อน ดูจากการผิดนัดชำระหนี้และ NPL สูงขึ้นตามลำดับ
ดูจากสถิติพบว่าหนี้ครัวเรือนต่อ GDP สูงขึ้นทุกปี แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีหนี้ครัวเรือนมาก หมายความถึงคนไทยยังยากจนอยู่เยอะ เช่น
หนี้ครัวเรือนต่อ GDP
ปี 2557 = 79.9%
ปี 2558 = 81.2%
ปี 2559 = 79.6%
ปี 2560 = 78.3%
ปี 2561 = 78.6%
หนี้ที่มีการผิดนัด
ปี 2557 = 2.61%
ปี 2558 = 2.38%
ปี 2559 = 2.63%
ปี 2560 = 2.55%
ปี 2561 = 2.42%
ปี 2562 ไตรมาสแรก = 2.56%
ปี 2562 ไตรมาสสอง = 2.76%
สัดส่วนหนี้เสีย ปี 2557 = 2.15%
ปี 2558 = 2.55%
ปี 2559 = 2.83%
ปี 2560 = 2.91%
ปี 2561 = 2.94%
ปี 2562 ไตรมาสแรก = 2.94%
ปี 2562 ไตรมาสสอง = 2.95%
นอกจากนี้สภาพัฒน์ฯ ยังออกมาระบุว่าไตรมาสแรกของปี 2562 หนี้ครัวเรือนยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากไตรมาส 4 ของปี 2561 อยู่ที่ 12.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% คิดเป็นสัดส่วน 78.6% ต่อ GDP ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อการอุปโภคบริโภค เท่ากับว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวอาจล้มละลายได้ และจากการวิจัยของบางสำนักพบว่าคนไทยมีหนี้เร็วขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อยกว่า 20% ของผู้กู้ในช่วงอายุ 20 ปี การเป็นหนี้เสียเยอะขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จาก 377,109 บาท เพิ่มเป็น 552,499 บาท และพบว่าหนี้มาจากผู้กู้รายเดิมถึง 80%
อย่างไรก็ตามรัฐบาลพยายามลดภาระหนี้ให้ทุกวิถีทาง แต่ก็ยังไม่สามารถลดได้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่เมื่อดูหนี้สาธารณะยังพอเบาใจได้บ้างว่า GDP เราเพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนของเราน้อยลงไม่เกินมาตรฐาน ปัจจุบันพบว่ามีเพียง 41.45% ของ GDP
ปี 2557 GDP 13,132,253 หนี้ 43.33%
ปี 2558 GDP 13,588,865 หนี้ 42.56%
ปี 2559 GDP 14,330,666 หนี้ 41.79%
ปี 2560 GDP 15,211,958 หนี้ 41.89%
ปี 2561 GDP 16,116,441 หนี้ 42.07%
ปี 2562 GDP 16,686,599 หนี้ 41.45%
คิดเป็นหนี้รัฐบาล 34.06% หนี้ของรัฐวิสาหกิจ 5.31% หนี้ธนาคารรัฐ(รัฐค้ำประกัน) 2.02% หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 0.06%
ปกติหนี้สาธารณะกู้มาใช้เพื่อการลงทุน สามารถส่งคืนดอกเบี้ยได้ทุกปี ในขณะที่ประเทศสร้างรายได้ GDP ได้สูงขึ้น ยังพอเบาใจได้ว่าไม่น่าห่วงมากนัก
เป็นห่วงแต่หนี้ครัวเรือนที่เป็นหนี้กันทุกหย่อมหญ้า เมื่อใดจะสามาถใช้หนี้ได้หมด หากเศรษฐกิจไทยยังคงเป็นอยู่เช่นนี้ และรัฐบาลยังไม่มีนโยบายลดหนี้ครัวเรือนลง น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน