ทีมข่าวคิดลึก และแล้ว ระเบิดเวลาได้ถูกปลดชนวนลง ด้วยความละมุนละม่อม โดยไม่มีใครต้องบาดเจ็บหรือเกิดความสูญเสีย เมื่อ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่เลือกที่จะเดินหน้าปะทะกับ "ม็อบเครือข่ายต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน" จ.กระบี่ แต่เลือกที่จะเบรกความร้อนแรงด้วยการใช้ระยะเวลาเพื่อให้ทุกฝ่าย ได้มีโอกาสกลับที่สู่ตั้งของตัวเอง ปฏิบัติการต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินของภาคประชาชนที่มารวมพลประท้วงรัฐบาลที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ใช้เวลาราว 3 วัน และมีแนวโน้มว่าม็อบกลุ่มนี้ได้เตรียมการทั้งในด้านข้อมูลมวลชนและตลอดจนแนวทางการชุมนุมมาเป็นอย่างดี แต่จากนั้นไม่นานการเจรจาระหว่าง "แกนนำ" กับ"พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์" แม่ทัพภาคที่ 1 มีขึ้นเป็นระยะ ก่อนที่จะมาถึงจุดที่รัฐบาลเลือกให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกลับไปศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)และรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ใหม่ และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็พร้อมที่จะยอมรับ ปรากฏว่าเพียงไม่นานสถานการณ์ที่ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลได้กลับคืนสู่ความสงบ เมื่อกลุ่มผู้ต่อต้านทยอยขึ้นรถเดินทางกลับบ้านที่ จ.กระบี่ งานนี้แม้ว่ารัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จะถูกมองว่า "ยอมถอย"ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วน่าสนใจว่า การเบรกเกมร้อนที่ทำท่าว่าพร้อมจะแรงขึ้นมาได้ทุกเมื่อโดยมาจากการเจรจาในหลายทาง ทั้งที่เห็นอย่างเปิดเผยไปจนถึงการ "ทำงานในระดับพื้นที่" ผ่านกลไกที่มีอยู่ในมือ ความจริงเป็นไปตามที่ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ระบุเอาไว้นั้นถูกต้องแล้ว "รัฐบาลไม่ได้ถอย""ส่วนที่นายกรัฐมนตรี ยอมทบทวนนั้น อยากให้เข้าใจว่า เราทำใหม่อย่างไง ต้องมีกระบวนการEHIA แน่นอน และรัฐบาลไม่ได้ถอยทุกอย่างทำตามขั้นตอน และทำตามกฎหมาย" (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกฯ ระบุ / 20 ก.พ. 2560) เพราะนี่ไม่ใช่การถอยเพียงแต่ย้ายสนามรบกับภาคประชาชน ต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จากหน้าทำเนียบฯ ออกไป เพื่อลดความกดดัน เลี่ยงการเผชิญหน้า และที่สำคัญ ยังเป็นการตัดช่องทาง ไม่ให้ "ฝ่ายตรงข้าม คสช." ฉวยจังหวะที่รัฐบาลเผชิญหน้ากับม็อบแนวร่วม มาเขย่า พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักวิชาการ หรือแม้แต่กลุ่มนักศึกษาไม่เอารัฐประหาร ทั้งนี้ คสช. และรัฐบาลเอง ได้ประเมินท่าที และความแข็งแกร่งของม็อบต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินแล้ว รู้ดีว่าม็อบกลุ่มนี้ พร้อมที่จะปักหลักยืนระยะการต่อสู้ได้อย่างยืดเยื้อและพร้อมที่จะระดมประชาชนขึ้นมา คัดค้านที่หน้าทำเนียบฯ ได้โดยไม่ยาก แน่นอนว่าหาก คสช. ปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปถึงที่นำไปสู่การเผชิญหน้า ภายใต้เงื่อนไขของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ย่อมไม่ใช่เรื่องเล็ก อีกทั้งจะกลายเป็นการผลักแนวร่วม ให้ต้องไปยืนใน ระนาบเดียวกับ "ฝั่งตรงข้าม คสช."โดยใช่เหตุ