เสือตัวที่ 6
ท่ามกลางความรุนแรงของการปะทะกันด้วยอาวุธหนักระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพกัมพูชาจากกรณีความขัดแย้งแย่งชิงพื้นที่เขตแดนที่ติดต่อกัน และเป็นความขัดแย้งที่สืบเนื่องมาจากประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน หากแต่ทว่าความขัดแย้งนั้นก็ยังคงเดินหน้าแก้ปัญหาบนแนวคิดสันติวิธีเพื่อหล่อเลี้ยงสันติภาพระหว่างทั้งสองประเทศให้ดำรงคงอยู่และมันก็สัมฤทธิ์ผลมาได้จนกระทั่งปี 2568 สันติวิธีเพื่อสันติภาพของทั้งสองประเทศก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง ทำให้การปะทะกันด้วยอาวุธหนักครั้งนี้มีความรุนแรงสร้างความเสียหายทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิตของประชาชนในวงกว้างมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งการทำการสู้รบครั้งนี้หมิ่นเหม่ที่การปะทะกันจะเข้าสู้ภาวะสงครามที่ไม่มีการประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ ประกอบกับมีแนวคิดให้การแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว สถานการณ์ในห้วงเวลานี้ ยังไม่สามารถแสวงหาทางออกด้วยสันติวิธีได้ รวมทั้งมีแนวคิดการทำสงครามเพื่อเดินหน้าสู่สันติภาพ หากแต่ในโลกความเป็นจริงนั้นแนวคิดสงครามเพื่อสันติภาพนั้นอาจเป็นสันติภาพที่ไม่มีอยู่จริง ด้วยสันติภาพที่ได้มาด้วยสงครามจะเป็นสันติภาพที่ซ่อนปนไปกับความเครียดแค้นชิงชังระหว่างกันจะหยั่งรากลึกเข้าไปใน DNA จนยากที่จะเป็นสันติภาพที่แท้จริงได้
และสันติภาพในพื้นที่เขตแดนของไทยที่ติดกับประเทศกัมพูชาจะยังคงมีเป้าหมายปลายทางของการหยุดสงครามเพื่อสันติภาพ อันเป็นแนวคิดที่ถูกนำมาใช้ในพื้นที่ปลายด้ามขวานมาอย่างยาวนาน ผ่านแนวคิดสันติวิธีที่ทั้งรัฐและกลุ่มต่อต้านรัฐได้เห็นพ้องในการตั้งคณะตัวแทนของทั้งสองฝ่ายไปแสวงหาทางออกของความขัดแย้งเห็นต่างในเวทีการพูดคุยเจรจาเพื่อสันติภาพมาอย่างต่อเนื่อง หากแต่สถานการณ์ความสงบเรียบร้อยของการต่อสู้ด้วยอาวุธของกลุ่มแย่งชิงอำนาจรัฐในห้วงเวลาที่ผ่านมาจวบจนปัจจุบัน เป็นความสงบเงียบที่ซ่อนปนไปด้วยความรุนแรงที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลาที่โอกาสอำนวยและเป็นความต้องการของแกนนำระดับสั่งการของขบวนการร้ายแห่งนี้ สันติภาพที่ต้องการจึงยังไม่เกิดขึ้นจริงตามภาพที่เห็น ตราบใดที่แกนนำของขบวนการยังไม่บรรลุเป้าหมาสูงสุดของพวกเขานั่นคือเอกราชรัฐปาตานีที่มีอำนาจการปกครองดูแลกันเองของคนในพื้นที่เยี่ยงรัฐเอกราชทั่วไป
ภายใต้บรรยากาศของระบบรัฐสภาและประชาธิปไตยที่กำลังเปิดกว้างให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันได้มากขึ้น บนพื้นฐานของการเปิดโอกาสให้มีบุคคลพลเรือนเข้ามาเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพฝ่ายรัฐเป็นครั้งแรก ตลอดจนการยกระดับการพูดคุยเพื่อสันติภาพในคณะกรรมาธิการของรัฐสภา เหล่านี้น่าจะเป็นก้าวแรกอีกครั้งหนึ่งในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันอันเป็นจุดสำคัญในกระบวนการสันติภาพที่จะเดินต่อไปอย่างมั่นคง หากแต่แท้ที่จริงแล้วผลสัมฤทธิ์ของกระบวนการสันติภาพนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความจริงจังและความต่อเนื่องในระดับนโยบายของรัฐอย่างที่สุด เพื่อให้กระบวนการสันติภาพเดินหน้าไปบนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันอย่างเต็มที่ในการบรรลุผลสุดท้ายตามที่ทุกฝ่ายมุ่งหวัง
หากแต่ในระหว่างเดินหน้าสู้สันติภาพในพื้นที่ กลับมีความพยายามในการช่วงชิงความได้เปรียบมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่งของขบวนการแย่งยึดอำนาจรัฐในพื้นที่เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการของตนเองมากที่สุดโดยละเลยความต้องการของฝ่ายรัฐที่ฝ่ายขบวนการร้ายดำเนินการในหลากหลายมิติไปพร้อมๆ กัน อาทิ การแสดงออกทางการเมืองผ่านการจัดกิจกรรมที่ผ่านมา ด้วยการจำลองการลงคะแนนเป็นประชามติให้มีการใช้สิทธิการกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง (RSD) ของกลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่งในพื้นที่ หรือการรวมตัวจัดกิจกรรมที่ซ่อนปนการปลุกระดมความเห็นต่างผ่านการแต่งกายที่อ้างอัตลักษณ์ สอดแทรกการกล่าวคำปฏิญาณเอกราชปาตานีของกลุ่มคนให้ร่วมกันต่อสู้กับรัฐ การเรียกร้องสิทธิพิเศษที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นของรัฐโดยอ้างอัตลักษณ์เฉพาะกลุ่ม วิถีชีวิตทางศาสนาอิสลาม ผ่านวาทกรรม สิทธิ เสรีภาพในการดำเนินชีวิตที่ถูกดกทับทางวัฒนธรรมจากรัฐ รวมทั้งการเรียกร้องต่างๆ ที่ซ่อนพรางให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ปกครองพิเศษ ตลอดจนการเสนอแนวคิดให้ออกกฎหมายในการเจรจาสันติภาพมารองรับ ยกระดับการพูดคุยสันติภาพของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนให้มีสถานะเท่าเทียมกับรัฐไทยและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงการกระจายอำนาจไปให้ประชาชนในพื้นที่อย่างสุดขั้ว
ขบวนการแย่งยึดอำนาจรัฐที่มีกลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นแกนนำ มีความชัดเจนในข้อเสนอทางออกทางการเมืองผ่านแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติภาพแบบองค์รวม (JCPP) โดยยื่นเงื่อนไขให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการแสวงหาทางออกทางการเมืองในหลากหลายประเด็นที่เข้าทางไปสู่เป้าหมายสำคัญคือเอกราชของกลุ่มขบวนการแย่งยึดอำนาจรัฐ หากแต่หนทางไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติเพื่อสันติภาพที่แท้จริงจำต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความจริงใจโปร่งใสในการยอมรับเงื่อนไขของคู่เจรจา ในขณะที่ฝ่ายขบวนการแย่งยึดอำนาจรัฐมีเป้าหมายสูงสุดคือเอกราชในการปกครองกันเองของคนในพื้นที่ หากแต่ฝ่ายรัฐก็มีเป้าหมายสูงสุดคืออธิปไตยและความเป็นหนึ่งเดียวของอาณาเขตแห่งดินแดนของรัฐ นั่นคือความสุดขั้วของความแตกต่างอันเป็นที่มาของการต่อสู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ท่ามกลางความสงบเงียบจากความรุนแรงด้วยอาวุธในขณะนี้ กลุ่มต่อต้านรัฐกลับเดินเกมการต่อสู้ในทุกมิติเพื่อบรรลุเป้าหมายเอกราชอย่างเข้มข้น และด้วยเป็นสันติภาพที่แฝงไว้กับความเครียดแค้น ชิงชังหยั่งรากลึกนั้นเป็นสันติภาพลวงตา ที่ความรุนแรงทั้งทางความคิดและความรุนแรงด้วยอาวุธพร้อมระเบิดขึ้นในทุกเวลา ทำให้สันติภาพที่แลเห็นขณะนี้ เป็นสันติภาพที่ไม่มีอยู่จริง








