เหตุการณ์การดำเนินคดีต่อบุคคลสาธารณะในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงประชาชนและการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อความเชื่อมั่นของสังคม กรณีนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้เห็นถึงความเสี่ยงที่แฝงอยู่เบื้องหลังการชักชวนลงทุนที่ดูน่าดึงดูดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ชักชวนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือมีความน่าเชื่อถือทางสังคมสูง
ปัญหาการฉ้อโกงในลักษณะนี้มักมีรากฐานมาจากองค์ประกอบหลักหลายประการ โดยเฉพาะการอาศัยสถานะทางสังคมและความสำเร็จในอดีตของผู้ชักชวน ซึ่งถูกใช้เป็นเกราะกำบังความเสี่ยง ทำให้ผู้คนเชื่อโดยอัตโนมัติและลดการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอีกปัจจัยสำคัญคือ
การสัญญาผลตอบแทนที่สูงเกินจริง รูปแบบการระดมทุนที่สัญญากำหนดผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยตลาดอย่างมีนัยสำคัญและต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ชัดเจน ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับกลไกแบบแชร์ลูกโซ่ เนื่องจากโครงการลงทุนหรือการกู้ยืมมักขาดความโปร่งใสในเรื่องแหล่งที่มาของรายได้จริง ที่นำมาจ่ายผลตอบแทน หรือไม่มีการดำเนินงานทางธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างยั่งยืน
ดังนั้นเพื่อปกป้องทรัพย์สินของตนเอง นักลงทุนควรยึดหลักการแห่งความรอบคอบและตั้งคำถามอย่างมีวิจารณญาณ โดยเริ่มจากการตั้งคำถามต่อผลตอบแทน หากได้รับคำมั่นสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติและมีการ "การันตี" ควรตั้งสมมติฐานไว้ก่อนว่าเป็นความเสี่ยงสูงมาก เพราะไม่มีธุรกิจใดที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงอย่างสม่ำเสมอโดยไม่มีความเสี่ยง
นอกจากนี้ การตรวจสอบความถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง อย่าลงทุนเพียงเพราะ "คนดัง" ชวน หรือ "เพื่อนแนะนำ" ควรตรวจสอบว่าการลงทุนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือธนาคารแห่งประเทศไทย
สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการเข้าใจในธุรกิจ ก่อนตัดสินใจเข้าร่วม ควรตอบตัวเองให้ได้ว่า "เงินกำไรนี้มาจากไหน?" หากคำอธิบายมีความซับซ้อนคลุมเครือ หรือเป็นไปในลักษณะการนำเงินของผู้ลงทุนรายใหม่มาจ่ายคืนรายเก่า ก็ควรหลีกเลี่ยงทันที
ที่สำคัญคือต้องแยกความน่าเชื่อถือส่วนตัว เช่น เป็นบุคคลที่รู้จัก ออกจากความน่าเชื่อถือทางธุรกิจ ความมั่นคงทางการเงินและกฎหมายรองรับ อย่างชัดเจน
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ภาครัฐและเอกชนควรส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงินขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน โดยเน้นย้ำถึงลักษณะของกลโกงทางการเงิน การคำนวณความเสี่ยง และผลตอบแทนที่สมเหตุสมผลเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของความโลภหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งพิจารณากลไกการกำกับดูแลการระดมทุนในรูปแบบใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือการระดมทุนแบบส่วนตัวที่เข้าถึงประชาชนจำนวนมาก เพื่ออุดช่องโหว่ทางกฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่สำคัญบุคคลที่มีชื่อเสียงควรตระหนักถึงอิทธิพลของตนเอง และใช้ความระมัดระวังสูงสุดในการชักชวนหรือนำเสนอโอกาสการลงทุนใด ๆ ต่อสาธารณะชน เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์ส่วนตัวนำไปสู่ความเสียหายทางการเงินของผู้อื่นวิกฤตความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนราคาแพงที่ย้ำเตือนว่า ในโลกการลงทุน ความรอบคอบสำคัญกว่าความโลภ การมีสติและใช้หลักการตรวจสอบที่เข้มงวดเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดต่อการตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง แม้ว่าผู้ชักชวนจะเป็นบุคคลที่เราชื่นชมก็ตาม
#คนดังชวนลงทุน #กลโกง #แชร์ลูกโซ่ #ฉ้อโกงประชาชน #การลงทุน #ก.ล.ต. #ลงทุนอย่างมีสติ







