คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ/ ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย
ในอีกสามปีข้างหน้าสหรัฐอเมริกาก็จะมีการแข่งขันเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีกันใหม่ที่อาจจะมีผลทำให้ “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” หมดวาระการนำพาประเทศในระบอบเผด็จการ
และเนื่องจากคะแนนนิยมของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังลดฮวบลงไปเรื่อยๆ สืบเนื่องมาจากความล้มเหลวทางด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งเรื่องสวัสดิการด้านสุขภาพ อีกทั้งชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังเกิดอาการไม่พึงพอใจในการบริหารจัดการกับชาวต่างด้าวที่เขาเคยประกาศชูธงเอาไว้เมื่อตอนหาเสียง!!!
และดูเหมือนว่าขณะนี้นักการเมืองของค่ายพรรคเดโมแครตหลายๆคนต่างเริ่มขยับตัวออกมาหาเสียง เพื่อหวังจะได้รับเลือกให้เข้าไปดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไปกันแล้ว
จากการสำรวจครั้งล่าสุดของ “สถานีโทรทัศน์ช่องซีเอ็นเอ็น” เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2025 ว่า ชาวอเมริกัน 33% ตัดสินใจแล้วว่า ต้องการจะเลือกใครเข้าไปเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ต่อไป แต่คนอเมริกันอีก 67% กล่าวว่า ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเลือกใครดี ส่วนบรรดาฐานเสียงผู้สนับสนุนค่ายพรรครีพับลิกัน 22% ออกมากล่าวว่า ผู้ที่เหมาะสมที่สุดก็คือ “รองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์” และยังมีคนอเมริกันอีกแค่ 4% เท่านั้นที่คิดว่า “รัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โค รูบิโอ” คือผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่เข้าไปรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่
ส่วนค่ายพรรคเดโมแครตนั้น จากผลการสำรวจของสถานีโทรทัศน์ช่องซีเอ็นเอ็น ก็ได้ออกมาเปิดเผยเช่นกันว่า นักการเมืองของพรรคเดโมแครตที่โดดเด่นที่สุดในขณะนี้ก็คือ “ผู้ว่าฯเกวิน นิวซัม” แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ผู้ว่าฯท่านนี้เคยออกมาเผชิญหน้ากับประธานาธิบดีทรัมป์ในทุกๆรูปแบบมาแล้วอย่างไม่เกรงกลัว
โดยคนอเมริกันให้คะแนนความนิยม 11% และกล่าวว่า ผู้ว่าฯแกวิน นิวซัม คือผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะเข้าไปรับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯคนต่อไป ส่วนผู้ที่เหมาะสมรองลงมาก็คือ “อดีตรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส” ที่ขณะนี้เธอได้รับคะแนนนิยมอยู่ที่ 5%
และผู้ที่ได้รับความนิยมอันดับสามก็คือ
“ส.ส.อเล็กซานเดรีย โอคาชิโอ-คอร์เตซ” ได้รับคะแนน 4% และมี “อดีตรัฐมนตรีคมนาคม พีท บุตติจีจ” ได้รับคะแนนนิยมเป็นอันดับสี่อยู่ที่ 2%
ทั้งนี้ปรากฏให้เห็นว่าในค่ายพรรคเดโมแครตก็ยังมีนักการเมืองอีก 18 คน ที่ออกมาประกาศสนใจที่จะลงแข่งขันเลือกตั้งในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ด้วยเช่นกัน เนื่องมาจากพวกเขาเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะ เพราะคะแนนนิยมของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังตกฮวบลงไปเรื่อยๆ!!!
ส่วนนักการเมืองค่ายพรรครีพับลิกันที่แสดงเจตน์จำนงค์ว่า สนใจที่จะลงแข่งขันเลือกตั้งในตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ก็มีมากถึง 10 คนด้วยเช่นกัน
เท่ากับว่าหลังการเลือกตั้งกลางสมัยในวันที่ 3 พฤศจิกายน ปีค.ศ.2026 ก็จะมีนักการเมืองของค่ายพรรคเดโมแครตออกมาประกาศที่จะลงแข่งขันเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีมากขึ้น
ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ที่ยังคงเหลือวาระการดำรงอยู่ในตำแหน่งอีกสามปีนั้น รัฐธรรมนูญของสหรัฐฯกำหนดเอาไว้ว่า “ไม่สามารถลงแข่งขันในสมัยที่สามได้”
อย่างไรก็ตาม “สำนักหยั่งเสียง Atlasintel” ที่เคยทำนายผลการเลือกตั้งเมื่อปีค.ศ. 2024 ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ 100% ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้อดีตรัฐมนตรีคมนาคมพีท บุตติจีจ ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง ที่ได้รับคะแนนนิยมถึง 26.7% ส่วนอันดับสองก็คือ ส.ส.อเล็กซานเดรีย โอคาชิโอ-คอร์เตซ ได้รับความนิยมอยู่ที่ 18.5% และผู้ว่าฯเกวิน นิวซัม ได้รับความนิยมอันดับสามอยู่ที่ 15.8% ส่วนอันดับสี่ก็คือ อดีตรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ได้รับคะแนนนิยมที่ 14.5%
และยังมีคำถามที่ว่า คนอเมริกันส่วนใหญ่นิยมชมชอบพรรคการเมืองใด?
จากบรรดาสำนักหยั้งเสียงต่างๆได้ออกมารายงานว่า โดยเฉลี่ยแล้วขณะนี้พรรคเดโมแครตได้รับความนิยมมากกว่าพรรครีพับลิกันด้วยคะแนน 46% ต่อ 43%
ทั้งนี้ก็ยังมีผู้ที่ไม่สังกัดหรือฝักใฝ่ต่อพรรคการเมืองใดๆเลย หรือที่เรียกผู้คนเหล่านี้ว่า “กลุ่มอิสระ” ที่ดูเหมือนว่าขณะนี้กลุ่มอิสระนี้กำลังมีอิทธิพลในการเลือกตั้งประธานาธิบดีมากขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ตามผลการเลือกตั้งกลางสมัยที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2026 ก็อาจจะมีผลกระทบต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอีกด้วย
และจากผลการหยั่งเสียงของโพลต่างๆ ปรากฏว่า พรรคเดโมแครตจะมีโอกาสได้รับชัยชนะในสภาผู้แทนราษฎร และพรรครีพับลิกัน ก็จะมีโอกาสคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภาต่อไป
ซึ่งปัจจุบันนี้พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรด้วยเสียง 220 ที่นั่ง โดยพรรคเดโมแครตมีเสียงในสภาผู้แทนราษฎรอยู่ที่ 213 ที่นั่ง และมีอีกสองที่นั่งที่ยังว่างอยู่
ส่วนในวุฒิสภา พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากเหนือพรรคเดโมแครตอยู่ที่ 53 ต่อ 47 ที่นั่ง
กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นหากจะลองวิเคราะห์กันดูแล้ว ในขณะนี้จะเห็นได้จากการรายงานของบรรดาสำนักหยั่งเสียงชื่อดังต่างๆที่ออกมารายงานในทำนองที่ว่าค่ายพรรคเดโมแครต จะมีผู้ที่อาจจะได้รับเลือกให้เข้าไปเป็นตัวแทนของพรรค 4 คนด้วยกัน นั่นก็คือ “ผู้ว่าฯ เกวิน นิวซัม” แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย “ส.ส.อเล็กซานเดรีย โอคาชิโอ-คอร์เตซ” “อดีตรัฐมนตรีคมนาคม พีท บุตติจีจ” ตามติดมาด้วย “อดีตรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส” ส่วนค่ายพรรครีพับลิกันก็คงจะมี “รองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์” และ “รัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โค รูบิโอ” ส่วนใครจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไปที่แน่ๆก็คงจะเป็นผู้ที่มีเม็ดเงินหนาทุ่มทุนมากที่สุดเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้รับตำแหน่งยิ่งใหญ่นี้ไปครอบครองละครับ








