ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ / ทหารประชาธิปไตย
การตอบโต้ของจีนและรัสเซียต่อการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐในเวเนซุเอลาน่าจะมีหลายมิติ แต่ไม่น่าจะถึงขั้นเผชิญหน้าทางทหารโดยตรง:
รัสเซีย:
- ประณามอย่างรุนแรงผ่านเวทีสหประชาชาติ อ้างการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
- ใช้มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจ เช่น คว่ำบาตรบริษัทอเมริกัน
- เพิ่มกิจกรรมทางทหารในละตินอเมริกา เช่น ส่งเรือรบ ฝึกซ้อมร่วม
- สนับสนุนรัฐบาลมาดูโรในพลวัต หากยังคงอยู่ต่อสู้
- อาจใช้เป็นข้ออ้างเพื่อดำเนินการในพื้นที่ที่รัสเซียมีผลประโยชน์ เช่น ยูเครนหรือจอร์เจีย
จีน:
- ประณามผ่านช่องทางการทูตและสหประชาชาติ
- ใช้อาวุธทางเศรษฐกิจ เช่น ขายพันธบัตรสหรัฐ มาตรการการค้า
- เพิ่มอิทธิพลในละตินอเมริกาผ่านเงินลงทุนและ Belt and Road
- สร้างพันธมิตรกับประเทศที่ต่อต้านการแทรกแซงของสหรัฐ
- ใช้เป็นประเด็นชี้ว่าสหรัฐเป็น "ภัยคุกคาม" ต่อระบบระหว่างประเทศ
ทั้งสองประเทศมีผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในเวเนซุเอลา (น้ำมัน หนี้สิน) แต่เวเนซุเอลาไม่ได้อยู่ใน "core interests" ที่จะเสี่ยงสงครามโดยตรงกับสหรัฐ สถานการณ์จริงจะขึ้นกับบริบทโลก ความชอบธรรม และการสนับสนุนระหว่างประเทศในขณะนั้นด้วย
เป็นไปได้หรือไม่ที่รัสเซียจะไปตั้งฐานทัพในคิวบา:
เป็นไปได้ แต่มีความเสี่ยงสูงมาก จะเป็นการยกระดับความตึงเครียดแบบ "วิกฤตขีปนาวุธคิวบา 2.0"
ปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้:
- คิวบายังคงเป็นพันธมิตรของรัสเซีย มีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์
- รัสเซียเคยส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดและเรือรบไปคิวบาเป็นระยะ
- เป็นการตอบโต้ในการขยาย NATO เข้าใกล้รัสเซีย
- คิวบาต้องการการสนับสนุนทางเศรษฐกิจและทหาร
- เป็นข้อต่อรองในการเจรจากับสหรัฐ
อุปสรรคและความเสี่ยง:
- สหรัฐจะตอบโต้รุนแรง อาจถึงขั้นปิดล้อมทางทะเล หรือแม้แต่การโจมตี
- คิวบาเองอาจไม่อยากเสี่ยงเป็นเป้าหมายโจมตี
- ละเมิดข้อตกลงหลังวิกฤต 1962 ที่ไม่เป็นทางการ
- จีนอาจไม่สนับสนุน เพราะไม่อยากให้สถานการณ์บานปลาย
- ค่าใช้จ่ายและโลจิสติกส์สูงมากสำหรับรัสเซีย
สถานการณ์ที่อาจเกิด:
หากสหรัฐโจมตีเวเนซุเอลา รัสเซียอาจเพิ่มการแสดงตนทางทหารในคิวบาแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น ฐานทัพชั่วคราว เครื่องบินลาดตระเวน หรือเรือดำน้ำ มากกว่าติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์โดยตรง เพื่อกดดันโดยไม่ข้ามเส้นแดงที่จะนำไปสู่สงครามโดยตรงสิ่งนี้จะทำให้ภูมิภาคตึงเครียดมากและเป็นการเล่นกับไฟที่อันตรายมาก
ฉากทัศน์ในเวเนซุเอลา:
-หากสหรัฐฯตัดสินใจโจมตีทางอากาศ และปืนเรือ แต่ไม่ยกพลขึ้นบก รอจนรัฐบาลคารากัสบอบช้ำ ประชาชนเดือดร้อน ก็จะใช้ประชาชนที่จัดตั้งไว้ ให้ก่อจราจล โดยมีกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนโดยสหรัฐฯร่วมปฏิบัติการเพื่อโค่นล้มรัฐบาลมาดูโร หลังจากทำสำเร็จแล้วก็จะจัดตั้งรัฐบาลที่ตนสนับสนุน ที่คาดว่าจะเป็นนางมาชาโด ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แบบดร.ยูนุส แห่งบังคลาเทศ
อย่างไรก็ตามสหรัฐฯคงจะไม่รีบร้อนยกพลขึ้นบกในเบื้องต้น เพราะจะเป็นการเสี่ยงต่อการสูญเสียอย่างมาก เนื่องจากมาดูโรทำการติดอาวุธประชาชนจำนวนมาก แต่สหรัฐฯจะรอจนการล่มสลายของรัฐบาลมาดูโร และมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่จะทำการเชื้อเชิญกองทัพสหรัฐฯเข้าไปช่วยรักษาความมั่นคงของรัฐบาล








