จากมหานครใต้! สู่เมืองใต้น้ำ เปิดภาพสะเทือนใจ “หาดใหญ่” จมบาดาล 2568 หนักสุดในรอบ 300 ปี
น้ำทะเลจากอ่าวไทย บวกกับฝนจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และมวลน้ำสะสมจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ไม่ใช่แค่ทำให้ “หาดใหญ่” จมอยู่ใต้น้ำ แต่กำลังทำให้เมืองใหญ่สุดของภาคใต้ตอนล่างเผชิญหนึ่งในวิกฤตน้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ชาวบ้านจำนวนมากเรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า “น้ำปีมรณะ” ขณะที่นักวิชาการบางส่วนระบุว่า เป็นสถานการณ์ที่เข้าข่ายรุนแรงในระดับเดียวกับเหตุการณ์ใหญ่ในรอบหลายร้อยปี
ไทม์ไลน์: จากฝนตกไม่ลืมหูลืมตา สู่เมืองจมใต้น้ำ
ช่วงต้นพฤศจิกายน 2568
มวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคใต้ ทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา ยะลา และปัตตานี แม้ประชาชนคุ้นชินกับฝนปลายปี แต่ปริมาณฝนปีนี้สูงผิดปกติและตกต่อเนื่องหลายวันโดยแทบไม่มีช่วงหยุด
15-18 พฤศจิกายน 2568
ฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ต้นน้ำของอำเภอสะเดา คลองหอยโข่ง และบริเวณเทือกเขาสันกาลาคีรี ส่งผลให้ปริมาณน้ำในคลองอู่ตะเภาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ระดับน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงน้ำขึ้น ทำให้การระบายน้ำจากหาดใหญ่ลงสู่อ่าวไทยชะลอตัว
19 พฤศจิกายน 2568
เกิดน้ำล้นตลิ่งหลายจุดในเขตอำเภอคลองหอยโข่ง ก่อนมวลน้ำขนาดใหญ่เริ่มไหลลงสู่เขตเมืองหาดใหญ่ กระแสน้ำเริ่มเข้าท่วมชุมชนชั้นนอก เช่น คลองแห คลองหวะ ควนลัง
20-22 พฤศจิกายน 2568
ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่เริ่มถูกน้ำท่วม ถนนสายหลัก เช่น ถนนเพชรเกษม ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ และถนนกาญจนวนิช กลายเป็น “แม่น้ำกลางเมือง” ระบบไฟฟ้าหลายแห่งต้องตัดกระแสเพราะเสี่ยงไฟช็อต
23 พฤศจิกายน 2568
น้ำเข้าสู่ใจกลางเมือง ระดับสูงกว่า 1-2 เมตร โรงพยาบาล โรงเรียน และสถานที่ราชการหลายแห่งได้รับผลกระทบ ประชาชนจำนวนมากต้องย้ายขึ้นที่สูง บางจุดต้องใช้เรือเป็นพาหนะหลักในการสัญจร
24 พฤศจิกายน 2568
ข้อมูลจาก GISTDA วิเคราะห์ด้วยภาพถ่ายดาวเทียม Sentinel-1A และแบบจำลอง HAND ระบุว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของหาดใหญ่อยู่ใน “โซนสีน้ำเงินเข้ม” น้ำลึกเฉลี่ย 2–3 เมตร บางจุดเป็น “โซนเข้มจัด” มีความลึกมากกว่า 4 เมตร
ส่งผลกระทบประชาชนกว่า 150,000 คน บ้านเรือนกว่า 25,102 หลัง ถนนเสียหายมากกว่า 536 กิโลเมตร และโรงเรียน–โรงพยาบาลได้รับผลกระทบหลายสิบแห่ง
25 พฤศจิกายน 2568
สถานการณ์เข้าสู่จุดวิกฤต มวลน้ำยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะการระบายลงทะเลยังทำได้จำกัดจากน้ำทะเลหนุนสูง ประชาชนหลายชุมชนติดค้างในพื้นที่ ต้องรอการช่วยเหลือทางเรือและรถทหาร
เมื่อเปรียบเทียบกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในอดีต เช่น ปี 2521 หรือ 2543 ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนมองว่า ครั้งนี้มีความรุนแรงในระดับใกล้เคียงหรือสูงกว่า และอาจเป็นหนึ่งในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่สุดเท่าที่เมืองหาดใหญ่เคยเผชิญในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา
วิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ 2568 ไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติ แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของการบริหารจัดการน้ำ การขยายตัวของเมือง และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังรุนแรงขึ้นทุกปี
คำถามสำคัญหลังน้ำลด ไม่ใช่เพียง “จะฟื้นฟูอย่างไร” แต่คือเราจะทำอย่างไร ไม่ให้เมืองต้องจมน้ำซ้ำอีกในระดับนี้?
#หาดใหญ่จมน้ำ #น้ำท่วมใหญ่2568 #วิกฤตใต้ #เมืองหยุดหายใจ #มหาวิกฤตน้ำท่วม #สงขลาวิกฤต #ภัยพิบัติใหญ่ #ข่าวด่วนวันนี้ #ช่วยหาดใหญ่ #HatyaiFlood







