หากย้อนกลับไปมองประวัติศาสตร์การเมืองไทย "พรรคชาติไทย" ไม่ใช่เพียงพรรคการเมืองระดับภูมิภาค แต่คือสถาบันทางการเมืองระดับตำนานที่เคยผลักดันนายกฯ มาแล้วถึง 2 คน คือ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ และบรรหาร ศิลปอาชา
ในยุครุ่งเรืองภายใต้การนำของ "มังกรสุพรรณ" บรรหาร ศิลปอาชา พรรคชาติไทยเคยกวาดที่นั่ง สส. ได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล กระทั่งถูกยุบพรรคในปี 2551 และต้องถ่ายเลือดใหม่กลายมาเป็น "พรรคชาติไทยพัฒนา" ในปัจจุบัน
แม้ขนาดของพรรคจะเล็กลงตามกาลเวลาและกติกาการเมืองที่เปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ "มนต์ขลังแห่งสุพรรณบุรี" ตระกูลศิลปอาชายังคงรักษาฐานที่มั่นนี้ไว้อย่างเหนียวแน่น การเลือกตั้งปี 2566 คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุด
· เลือกตั้งปี 2566 พรรคชาติไทยพัฒนาได้ สส.รวม 10 ที่นั่ง
· สุพรรณบุรี (ยกจังหวัด): 5 ที่นั่ง (บ้านใหญ่ศิลปอาชา)
· นครปฐม: 3 ที่นั่ง (บ้านใหญ่สะสมทรัพย์)
· ร้อยเอ็ด: 1 ที่นั่ง (อนุรักษ์ จุรีมาศ)
· บัญชีรายชื่อ: 1 ที่นั่ง (วราวุธ ศิลปอาชา)
โครงสร้างนี้ชี้ให้เห็นว่า ชาติไทยพัฒนาในยุคของ "ท็อป วราวุธ" ยืนอยู่บน "2 เสาหลัก" คือ ศิลปอาชา (เจ้าของพรรค/สุพรรณฯ) และ สะสมทรัพย์ (ขุนพลนครปฐม) หากเสาใดเสาหนึ่งเอนเอียง ย่อมส่งผลสะเทือนต่อทิศทางของพรรคทันที
1. "ทางสามแพร่ง" ของชาติไทยพัฒนา
ข่าวการพบปะกันระหว่าง วราวุธ ศิลปอาชา กับ 3 พ่อลูกตระกูลปริศนานันทกุล แห่งพรรคภูมิใจไทย และกำหนดการนัดหมายครั้งสำคัญในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงแรมพูลแมน ระหว่าง บ้านใหญ่สะสมทรัพย์, บ้านใหญ่ศิลปอาชา และแกนนำภูมิใจไทย ถือเป็น "ระฆังสัญญาณ" ที่ดังที่สุดว่า วราวุธกำลังยืนอยู่บนทางแยกที่ต้องตัดสินใจ นี่คือการวิเคราะห์เจาะลึก 3 เส้นทางความเป็นไปได้
ทางเลือกที่ 1: "เลือดสุพรรณเข้มข้น" สืบสาน “พรรคชาติไทยพัฒนา” ต่อ (ความเป็นไปได้: 40%)
· เหตุผลสนับสนุน
นี่คือทางเลือกที่รักษา "ศักดิ์ศรี" ของตระกูลศิลปอาชาได้มากที่สุด คำเตือนของจองชัย เที่ยงธรรม ผู้เป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่ มีน้ำหนักมหาศาล ประโยคที่ว่า "ทิ้งแบรนด์เมื่อไหร่ จบเมื่อนั้น" สะท้อนความจริงที่ว่า คนสุพรรณฯ เลือก "พรรคของคนสุพรรณ" ไม่ใช่เลือกวราวุธในฐานะลูกน้องของพรรคอื่น การยุบพรรคอาจหมายถึงการทรยศต่อมรดกทางการเมืองที่พ่อบรรหารสร้างไว้
·ความเสี่ยง
การเป็นพรรคขนาดกลาง (10-15 เสียง) ในการเมืองยุค "ขั้วใหญ่กินรวบ" ทำให้การต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ และต้องเหนื่อยกับการประคองงบประมาณและกระแสพรรคที่แผ่วลง
ทางเลือกที่ 2: "ผนึกกำลังเพื่อไทย" (ความเป็นไปได้: 10%)
· เหตุผลสนับสนุน
ข่าวลือที่เคยถูกปล่อยออกมาว่า วราวุธจะเป็นแคนดิเดตเพื่อไทย สะท้อนว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีในระดับแกนนำ และเพื่อไทยเองก็ต้องการเสียงจากบ้านใหญ่ภาคกลางเพื่อสู้กับกระแสพรรคประชาชน
· จุดตาย "เคมีอาจไม่เข้ากัน"
ฐานเสียงของชาติไทยพัฒนาในสุพรรณบุรี และนครปฐม มีความเป็นอนุรักษ์นิยมสูง การย้ายไปเพื่อไทยอาจทำให้เสียคะแนนนิยมในพื้นที่ นอกจากนี้ บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ แห่งนครปฐม เคยต้องสู้รบปรบมือกับเพื่อไทยอย่างหนักในการเลือกตั้งที่ผ่านมา
ทางเลือกที่ 3: ยกทัพรวมภูมิใจไทย (ความเป็นไปได้: 50%)
นี่คือทางเลือกที่ดู "สมเหตุสมผล" ที่สุดในเชิงยุทธศาสตร์
(1) การรวมญาติ (ศิษย์เก่าบรรหาร)
ภูมิใจไทยในภาคกลางปัจจุบัน นำโดยตระกูล "ปริศนานันทกุล" (อ่างทอง) และ "ชาดา ไทยเศรษฐ์" (อุทัยธานี) ซึ่งล้วนเคยมีความผูกพันกับชาติไทย (เดิม) การที่วราวุธไปเยือนอ่างทอง คือสัญญะของการ "รวมพี่รวมน้อง"
(2) ดีลบ้านใหญ่สะสมทรัพย์
ตระกูลสะสมทรัพย์มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ เนวิน ชิดชอบ และ อนุทิน ชาญวีรกูล มายาวนาน หากวราวุธตัดสินใจไปทางนี้ สะสมทรัพย์จะยกมือสนับสนุนทันที เพราะคุยภาษาเดียวกันง่ายกว่า
(3) ยุทธศาสตร์ "ผนึกกำลังบ้านใหญ่"
หาก สุพรรณบุรี (ศิลปอาชา) + อ่างทอง (ปริศนานันทกุล) + นครปฐม (สะสมทรัพย์) + อุทัยธานี (ไทยเศรษฐ์) + บุรีรัมย์ (ชิดชอบ) มารวมกัน จะเกิดเป็น "มหาอำนาจทางการเมือง" ที่ไร้เทียมทาน แลกกับการที่วราวุธต้องยอมลดสถานะจาก "หัวหน้าพรรค" เป็น "ขุนพลเอก"
2. บทสรุป: การตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์
วราวุธ ศิลปอาชา กำลังเผชิญกับโจทย์ที่ยากที่สุดในชีวิตการเมือง หากเขาฟังคำเตือนของจองชัย เที่ยงธรรม ก็จะรักษาแบรนด์ชาติไทยพัฒนาไว้เป็นสมบัติของคนสุพรรณฯ ต่อไป แม้หนทางข้างหน้าจะตีบตันลงเรื่อยๆ
แต่หากเขาเลือก "ความอยู่รอดและอำนาจ" การรวมกับ พรรคภูมิใจไทย ดูจะเป็นสมการที่ลงตัวที่สุด เพราะเป็นการรวมกันของ "กลุ่มบ้านใหญ่" ที่มี DNA ใกล้เคียงกัน
โดยการพบปะหารือกันในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 นี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่จะได้คำตอบอย่างชัดเจนว่า สุดท้ายแล้ว “วราวุธ ศิลปอาชา” ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จะเลือกเส้นทางใด
บทความโดย ศราวุธ เอี่ยมเซี่ยม
#วราวุธศิลปอาชา #ชาติไทยพัฒนา #บ้านใหญ่ #การเมืองไทย #สุพรรณบุรี #สะสมทรัพย์ #ภูมิใจไทย #เพื่อไทย







