จากน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ทรงทุ่มเทพระวรกายในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการตลอดหลายทศวรรษ หนึ่งสิ่งที่สะท้อนพระปรีชาสามารถ พระวิริยะอุตสาหะ พระมหากรุณาธิคุณ คือการอนุรักษ์ พื้นฟู พัฒนา คุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ
ด้วยพระสิริโฉมอันงดงามของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กอปรกับความสนพระราชหฤทัยในพืชพรรณต่างๆ และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจจนเป็นที่ประจักษ์ องค์กรต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตเชิญพระนามาภิไธยเป็นชื่อดอกไม้ที่ค้นพบใหม่หรือได้รับรางวัลยอดเยี่ยมเพื่อเฉลิมพระเกียรติ
วันนี้ “สยามรัฐออนไลน์” ขอพาทุกท่าน ย้อนชมพระฉายาลักษณ์ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ท่ามกลางพรรณไม้งาม พร้อมเรื่องราวของดอกไม้ในพระนามาภิไธย
สำหรับ ดอกไม้ในพระนามาภิไธย 7 ชนิด ได้แก่ กล้วยไม้คัทลียาควีนสิริกิติ์ ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ กุหลาบควีนสิริกิติ์ บัวควีนสิริกิติ์ โมกราชินี มหาพรหมราชินี และ บัวศรีกิตติยา
แคทลียาควีนสิริกิติ์
1. แคทลียาควีนสิริกิติ์ Cattleya ‘Queen Sirikit’
กล้วยไม้คัทลียาที่สวยสะกดสายตาชนิดนี้ เป็นลูกผสมระหว่าง Cattleya Bow Bells และ Cattleya O’brieniana var. alba โดยบริษัท Black & Flory Ltd. ประเทศอังกฤษ ผสมขึ้นและจดทะเบียนใน พ.ศ. 2501 ในนาม “Exquisite” และจากความงดงามโดดเด่นทำให้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจาก The Royal Horticultural Society แห่งสหราชอาณาจักร ต่อมาได้มีการขอพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นชื่อกล้วยไม้พันธุ์ดังกล่าวว่า ‘แคทลียาควีนสิริกิติ์’
ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ - กุหลาบควีนสิริกิติ์
2. ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ Musaen ‘Queen Sirikit’
ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ เป็นดอนญ่าลูกผสมระหว่าง Mussaenda ‘Dona Luz’ และ Mussaenda philippica A. Rich. var. aurorae Sulit ซึ่งมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ได้ผสมขึ้นและขอพระราชทานพระราชานุญาต อัญเชิญพระนามาภิไธย “ควีนสิริกิติ์” เป็นชื่อดอนญ่าพันธุ์ใหม่นี้ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ.2506
3. กุหลาบควีนสิริกิติ์ Rosa ‘Queen Sirikit’
กุหลาบควีนสิริกิติ์ เกิดจากการผสมพันธุ์ชั้นเยี่ยมระหว่าง Konigin der Rosen และ Golden Gian ซึ่งลูกผสมใหม่ที่ได้ มีชื่อเรียกสายพันธุ์ว่า Peer Gynt มีความสวยงามตระการตา ได้รับการนำออกเผยแพร่ในปี พ.ศ. 2511 ต่อมาในปี พ.ศ. 2513 กุหลาบพันธุ์นี้ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดกุหลาบที่กรุง Belfast ไอร์แลนด์เหนือ สหราชอาณาจักร และในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2514 นาย Andre Hendrickx ชาวเบลเยี่ยม ผู้อำนวยการเรือนกุหลาบ Grandes Roseraies du Val de la Loire ประเทศฝรั่งเศส ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธย ควีนสิริกิติ์ เป็นชื่อของกุหลาบพันธุ์นี้
บัวควีนสิริกิติ์ - โมกราชินี
4. บัวควีนสิริกิติ์ Nymphaea ‘Queen Sirikit’
บัวควีนสิริกิติ์ บัวลูกผสมระหว่างบัวนางกวักสีฟ้าเป็นต้นพ่อกับบัวพันธุ์เพอรี่ส์ไฟร์โอปอล (Perry’s Fire Opal) ดอกสีชมพูเป็นต้นแม่ได้ลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ มีลักษณะงดงามโดดเด่นกว่าบัวสายพันธุ์อื่น คือดอกสีม่วงอมฟ้าสดใส ส่วนปลายกลีบเป็นสีม่วงเข้มชัดเจน เกสรในวงดอกสีเหลือง ตรงปลายยอดเป็นสีม่วงอมฟ้า ดอกบานเต็มที่ในช่วงเช้าและจะค่อยห่อตัวลงในช่วงบ่าย โดยจะมีอายุการบานประมาณ 3 วันจึงโรย
ปี พ.ศ. 2554 สมาคมพฤกษศาสตร์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาต อัญเชิญพระนามาภิไธย เป็นชื่อของบัวพันธุ์ใหม่ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปี พ.ศ. 2555 การนี้ได้มีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานชื่อ ‘บัวควีนสิริกิติ์’ ให้กับบัวสายพันธุ์ใหม่นี้ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555
5. โมกราชินี Wrightia sirikitiae
พรรณไม้เฉพาะถิ่นของประเทศไทย ถูกค้นพบครั้งแรกที่เขาหินปูน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นที่ใกล้สูญพันธุ์ ศาสตราจารย์ ดร. วิชัย สันติสุข พร้อม Dr. David J. Middleton ผู้เชี่ยวชาญพันธุ์ไม้สกุลโมก ยืนยันว่าเป็นพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก จึงได้ขอพระราชทานพระนามาภิไธย เป็นชื่อพันธุ์ไม้ชนิดใหม่นี้ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานนามอันเป็นมงคลว่า ‘โมกราชินี’ ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544
มหาพรหมราชินี - บัวศรีกิตติยา
6. มหาพรหมราชินี Mitrephora sirikitiae
พันธุ์ไม้หายาก มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยพบที่เขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน บริเวณชายป่าดิบเขา ที่ระดับความสูงประมาณ 1,100 เมตร ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น และผู้เชี่ยวชาญพืชสกุลนี้คือ Dr. Aruna Weerasooriyaและ Dr. R.M.K. Saunders จากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ได้ร่วมกันตรวจสอบเอกลักษณ์เป็นพืชนิดใหม่ และได้ขอพระราชทานชื่อ “มหาพรหมราชินี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2547 โดยได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธย เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2547
7. บัวศรีกิตติยา Nymphaea ‘Srikittiya’
บัวศรีกิตติยา บัวสายลูกผสมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ดร.เสริมลาภ วสุวัต ผู้เชี่ยวชาญบัว พบในปี พ.ศ. 2550 ที่คลองน้ำในบ้านปางอุบล ลักษณะดอกมีขนาดใหญ่ สีแดงแกมชมพูเข้ม กลีบดอกมีจำนวน 32-34 กลีบ เรียงซ้อนกันหลายชั้น ดอกบานกลางคืนและหุบตอนสาย แตกต่างจากบัวชนิดอื่น ด้วยความงามโดดเด่น จึงได้มีการปรับปรุงบัวพันธุ์นี้จนมีสีและรูปลักษณ์สม่ำเสมอ ต่อมาได้นำไปขยายพันธุ์และจัดแสดงในงานมหกรรมพืชสวนโลกที่เชียงใหม่ พ.ศ. 2552 และเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา คณะผู้ค้นพบได้ทูลเกล้าฯ ถวายบัวพันธุ์นี้แด่สมเด็จพระพันปีหลวง และต่อมาได้ปลูกประดับไว้ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
ดอกไม้ในพระนามาภิไธย ไม่เพียงสะท้อนสัญลักษณ์แห่งพระราชจริยวัตร “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติที่ทรงเป็นแบบอย่าง หากแต่ยังเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อความผาสุกของประชาชนและความยั่งยืนของผืนแผ่นดินไทย
ขอบคุณภาพ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์







