บารอนป้อนข่าว

คิดนอกกรอบ

แชร์ข่าว

หลังน้ำลด “บารอน” สลดใจมากกว่า กับภาพข่าวที่เห็นจากหน้าจอทีวีทุกช่อง รถยนต์รถจักรยานยนต์นับพันคันกลายเป็นกองขยะกองมหิมาอยู่สองข้างทาง สภาพบ้านเรือนไม่เหลือสภาพให้อยู่อาศัยได้ ข้าวของเครื่องใช้พังยับเยิน เป็นขยะกองพะเนินอยู่หน้าบ้าน สองวันแรกไม่มีน้ำไฟให้ใช้ หลังจากนั้นน้ำถึงจะเริ่มไหลอย่างอ่อนๆ ไม่แรงพอที่จะฉีดน้ำทำความสะอาดบ้าน ส่วนไฟฟ้ายังต้องใช้ไฟฟ้าสำรองเป็นส่วนใหญ่ ไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ไฟฟ้าในระบบถึงจะใช้ได้สมบูรณ์

ที่หดหู่หัวใจ คือ สภาพความสิ้นไร้ไม้ตอก ของ ผู้ประสบภัยน้ำท่วมหลายครอบครัว ไม่รู้จะหาทางออกให้ชีวิตได้อย่างไร ไม่เพียงแต่สิ้นเนื้อปะดาตัว คนในครอบครัวต้องจมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตา ถึงขนาดมีพ่อยอมกระโดดน้ำตายตามลูกหยั่งงี้แล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีมหาดไทย ยังใช้อำนาจเพื่อประชาชนไม่เป็น การให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมต้องไปลงทะเบียนรับความช่วยเหลือบ้านละ 9,000 บาท แต่ ต้องเตรียมเอกสารหลักฐานหยุมหยิม ทั้ง สำเนาทะเบียนบ้าน ที่ ประชาชนต้องไปเข้าแถวยาวเหยียดเพียงเพื่อถ่ายสำเนาทะเบียนบ้าน ทั้งๆที่ บัตรประชาชนใบเดียวก็แสดงตัวตนได้ทุกอย่าง

ที่ยุ่งยากไปกว่านั้น ยังมีทั้งเจ้าของบ้านอยู่เอง ส่วนที่เป็นบ้านเช่า ก็ต้องเอาเจ้าของบ้านและผู้เช่ามาแสดงตน ซึ่งต้องใช้เอกสารเพิ่มเติม        

จะดีกว่าไหมครับ ยามนี้ต้องรับใช้ประชาชน แทนที่จะให้ประชาชนออกจากบ้านโทรมๆ ให้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นฝ่ายเดินไปหาประชาชน ให้กรอกเอกสาร ถ่ายรูปประชาชนคู่กับบ้าน และ วิธีการรับเงินช่วยเหลือ 9,000 บาท ไม่ต้องไปเกณฑ์เจ้าหนาที่รัฐที่ไหน ก็ให้สมาชิกสภาเทศบาล หรือ สท. ถ้าไม่พอก็ใช้สมาชิก อบต. อบจ. เติมลงไป เพราะทั้ง สท. อบต. อบจ. ต้องถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเช่นกัน

พวกเขารู้พื้นที่ทุกตรอกทุกซอกมุมดีอยู่แล้ว แถมยังรู้จักคนในพื้นที่ดีอีกต่างหาก จากการเดินหาเสียงเลือกตั้งครั้งละหลายๆรอบ

ยามวิกฤติเช่นนี้ ต้องคิดนอกกรอบบ้างซิครับ ไปขอคะแนนเสียงยังไปได้ ไปแจกเงินหลวงบริการประชาชนถึงบ้านขี้คร้านจะอาสาสมัครแย่งกันไปว่า

แต่กับเสียงคัดค้านของนักการเมืองฝ่ายค้าน กล่าวหาว่า เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครัวเรือนละ 9,000 บาท น้อยไป ที่นี่ บารอน ต้องถามว่า ออกมาโวยวายกันทำไม แทนการบ้าน้ำลาย เข้าชื่อขอแก้กฎหมายว่าด้วยระเบียบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ของ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่กำหนดไว้เลยว่า ให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครัวเรือนละไม่เกิน 9,000 บาท      

ขืนรัฐบาลไปอนุมัติจ่ายเกินครัวเรือนละ 9,000 บาท ก็ทำผิดกฎหมายซิครับ

ใช้วิกฤตเป็นโอกาส เมื่อ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกแถลงข่าวด้วยตัวเอง พรรคเพื่อไทย จะยังไม่ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะอยากให้เวลารัฐบาลตั้งสติ มีสมาธิในการแก้ปัญหาให้ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม         

ที่นี่ บารอน มองตรงข้ามครับ พรรคเพื่อไทย ไม่ถือโอกาสนี้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล ยามที่รัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำจากความล้มเหลวการป้องกันน้ำท่วมภาคใต้ และ ให้ความช่วยเหลือล่าช้า จากการไม่แก้ปญหาขั้นตอนและวิธีการช่วยเหลือให้กระชับและสะดวกแก่ประชาชน

เป็นการเสียโอกาสมากกว่า

ทำให้มองเห็นว่า พรรคเพื่อไทยยังไม่มีความพร้อมเลือกตั้ง และ กลัวการยุบสภาตามคำขู่ของพรรคภูมิใจไทย

หากหลังจากนี้ รัฐบาล สามารถตั้งหลักได้ ให้การช่วยเหลือประชาชน และ ฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ให้กลับสภาพคืนโดยเร็ว เรียกศรัทธาได้ความนิยมกลับมา แล้วยุบสภาก่อนคริสต์มาสขึ้นมาล่ะ

แผลสดๆมันต้องเปิดบาดแผล    

ปากพาจนจริงๆ เมื่อ นางทากาอิจิ ซานาเอะ นายกรัฐมนตรีหญิงญี่ปุ่นคนแรก แกว่งปากหาศัตรูด้วยคำพูดว่า จีนคุกคามไต้หวันเท่ากับคุกคามญี่ปุ่นด้วย เหมือนลืมตัวลืมตน คิดว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศอภิมหาอำนาจเทียบเท่าสหรัฐอเมริกา    

เป็นอึ่งอ่างในกะลาครอบแท้ๆ    

ถูกจีนโต้ตอบแบบนิ่มๆจากเบาไปหาหนัก       

เริ่มตั้งแต่ เตือนนักท่องเที่ยวจีน ไม่ควรไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น เพราะไม่มีความปลอดภัย อันเนื่องจากญี่ปุ่นมีพฤติกรรมไม่เป็นมิตรกับจีน     

นักท่องเที่ยวจีน 20 ล้านคน หายวับไปจากเกาะญี่ปุ่น สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศมหาศาล      

ตามมาด้วยห้ามอาหารทะเลจากญี่ปุ่นนำเข้าประเทศจีนรวมถึงเขตปกครองพิเศษ เช่น ฮ่องกง มาเก๊า เล่นเอาญี่ปุ่นแทบไปไม่เป็น จากการสูญเสียรายได้ส่งออกอาหารทะเลปีละหลายแสนล้านบาท       

และที่ญี่ปุ่นกำลังกลัวและกังวลที่สุด คือ มาตรการไม่ส่งแร่หายาก “แรร์เอิร์ธ” ให้ญี่ปุ่น หลับตาก็เห็นภาพ ญี่ปุ่นจะเป็นอัมพาตทันที หากไม่มีแรร์เอิร์ธ ที่มีความจำเป็นของโลกสมัยใหม่และโลกในอนาคตที่ต้องพึ่งแรร์เอิร์ธเป็นหลัก

ข่าวล่า นางซานาเอะ นายกฯหญิงญี่ปุ่น ต่อสายตรงขอความช่วยเหลือ นายโรนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โอดครวญ ขอความช่วยเหลือ ได้รับแค่คำปลอบโยนหวานๆจากปลายสายว่าญี่ปุ่นเป็นมหามิตรเก่าแก่ของอเมริกา ที่ต้องดูแลอย่างดี มีอะไรโทรหาผมได้ตลอด          

แล้ว ทรัมป์ ก็หยอดต่อท้ายว่า อย่าไปยั่วยุจีน

อีกสายจากไวท์เฮาส์ถึงปักกิ่ง ทรัมป์ ยืนยันกับ สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีนว่า ไม่ต้องห่วงผมยึดมั่นในหลักการจีนเดียวอยู่แล้ว จะแนะนำนายกฯญี่ปุ่นว่า อย่ามาตอแยกับจีน

หลังจาก จีนไฟเขียวส่งแรร์เอิร์ธให้สหรัฐฯ