พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล ทรงเป็นประธานเปิดงาน "เทียนส่องใจ" เนื่องในวันเอดส์โลก ครั้งที่ 33 ประจำปี 2568
วันที่ 1 ธ.ค.68 เวลา 14.00 น. พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จไปทรงเปิดงาน "เทียนส่องใจ" เนื่องในวันเอดส์โลก ครั้งที่ 33 ประจำปี 2568 ณ ห้องราชมณเฑียร แกรนด์ บอลรูม โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร โดยมี นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองศาสตราจารย์ นายแพทย์จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระพงษ์ ตัณฑวิเชียร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์และโรคติดเชื้อ สภากาชาดไทย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์โอภาส พุทธเจริญ รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์และโรคติดเชื้อ สภากาชาดไทย คณะกรรมการจัดงานฯ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทย เฝ้ารับเสด็จ
ต่อมา เสด็จเข้าโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ เสด็จขึ้นชั้น M เสด็จเข้าห้องราชมณเฑียร แกรนด์ บอลรูม และเสด็จไปยังหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถวายความเคารพ ทรงวางพวงมาลัย และประทับยืนถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นเวลา 1 นาที
จากนั้น รองศาสตราจารย์ นายแพทย์โอภาส พุทธเจริญ รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์และโรคติดเชื้อ สภากาชาดไทย เข้าเฝ้าถวายสูจิบัตร นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงานเทียนส่องใจ นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทูลรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทย และ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระพงษ์ ตัณฑวิเชียร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์และโรคติดเชื้อ สภากาชาดไทย ทูลเบิก บุคคล หน่วยงาน และองค์กรดีเด่น เข้ารับโล่รางวัล จำนวน 17 ราย และ ผู้มีอุปการคุณ เข้ารับเหรียญที่ระลึก จำนวน 30 ราย ตามลำดับ
ต่อมา ประทานพระดำรัส และทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดงาน “เทียนส่องใจ” เนื่องในวันเอดส์โลก ครั้งที่ 33 ประจำปี 2568 และทอดพระเนตรนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ที่ทรงสนับสนุนงานด้านเอดส์มาอย่างยาวนาน พร้อมด้วยทอดพระเนตรนิทรรศการให้ความรู้แก่กลุ่มเยาวชนเกี่ยวกับเอชไอวี/เอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายในการยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 อาทิ บูธศูนย์วิจัยโรคเอดส์และโรคติดเชื้อ สภากาชาดไทย (AIDSID), บูธกระทรวงสาธารณสุข, บูธองค์การเภสัชกรรม, บูธศูนย์ทดสอบวัคซีน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล, บูธสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร, บูธกรมราชทัณฑ์ ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก, บูธโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, บูธชมรมจิตอาสาป้องกันเอดส์ เทิดพระเกียรติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ, บูธโรงเรียนบ้านบึง "อุตสาหกรรมนุเคราะห์" จ.ชลบุรี, บูธสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย (RSAT) บูธ HIVNAT & คลินิกบัดดี้ ซียู รพ.จุฬาลงกรณ์ และกลุ่มเยาวชน Y-CAB และเสด็จกลับ
องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันเอดส์โลก (World AIDS Day) เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ โดยในปีนี้ สภากาชาดไทยร่วมกับภาคีเครือข่าย ขอเชิญนักเรียน นิสิต นักศึกษา เข้าร่วมงานเทียนส่องใจ เนื่องในวันเอดส์โลก ครั้งที่ 33 ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “คนรุ่นใหม่ร่วมใจยุติเอดส์ : New Gen Zero AIDS” เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนได้เกิดความตระหนักรู้ในการป้องกันเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ร่วมกันรณรงค์ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ลดการตีตรา และไม่เลือกปฏิบัติในสังคม ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในการป้องกันโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้องผ่านนิทรรศการ การเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับของที่ระลึกมากมาย ระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00-17.00 น. ที่ห้องราชมณเฑียร แกรนด์ บอลรูม โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ
“วันเอดส์โลก” ถือเป็นวาระสำคัญที่ประชาคมโลกพร้อมใจกันใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการทบทวนสถานการณ์ด้านเอชไอวี/เอดส์ รวมทั้งประเมินผลการดำเนินงานของแต่ละประเทศในการป้องกัน ควบคุม และรักษาโรคอย่างรอบด้าน โดยมุ่งสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องต่อโรคเอดส์ในทุกระดับของสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ การศึกษา สิทธิมนุษยชน หรือความเสมอภาคทางสังคม ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการเข้ารับการตรวจเลือด รู้สถานะผลเลือด การเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ รวดเร็ว และการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังมุ่งลดความหวาดกลัว ความเข้าใจผิด และการตีตราผู้ติดเชื้อ เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างสง่างาม มีศักดิ์ศรี และได้รับการยอมรับเท่าเทียมกัน สำหรับประเทศไทย การขับเคลื่อนงานด้านเอดส์ภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรด้านสุขภาพ องค์กรสาธารณะ และประชาชน ได้มีบทบาทสำคัญในการนำพาประเทศมุ่งสู่เป้าหมายการยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 อันสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสังคมที่ปราศจากการติดเชื้อรายใหม่ ลดการเสียชีวิตจากเอดส์ และยุติการเลือกปฏิบัติอย่างยั่งยืน








