สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังคงตึงเครียด หลังเกิดการปะทะมาตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเขต อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงที่มีคำสั่งอพยพประชาชนบางส่วนออกไปแล้ว แม้ฝ่ายกัมพูชาจะยังไม่ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ถี่เหมือนวันแรกของการปะทะ แต่สถานการณ์ยังไม่แน่นอนว่าจะมีการยิงเข้ามาอีกเมื่อใด
ล่าสุดเช้ามืดวันที่ 9 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 04.50 น. มีเสียงปะทะดังต่อเนื่องทั่วแนวชายแดน พร้อมรายงานว่ามีลูกระเบิดไม่ทราบชนิดตกลงในพื้นที่บ้านหว้า หมู่ 7 ต.เขาดินเหนือ อ.บ้านกรวด หลายลูก ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งเตือนประชาชนให้รีบลงหลุมหลบภัยเพื่อความปลอดภัย
กองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์เพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ช่วงเข้าตี 4.50 น. ทหารกัมพูชาเริ่มเปิดฉากโจมตีด้วย BM-21 หลายลำกล้อง พร้อมโดรนทิ้งระเบิด และโดรนพลีชีพถล่มฐานของฝ่ายไทยในหลายแนวรบ ไม่ว่าจะเป็นช่องบก ปราสาทตาควาย ปราสาทคนา รวมถึงพื้นที่ภูมะเขือ และปราสาทตาเมือนธม ซึ่งฝ่ายกัมพูชาพยายามโจมตีหนักเพื่อยึดพื้นที่คืน
ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยอาวุธยิงเล็งตรงและอาวุธวิถีโค้งตามแผน ซึ่งสามารถควบคุมพื้นที่หลักและสร้างความเสียหายต่อศักยภาพของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีนัยสำคัญ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณบ้านหว้า พบหลุมระเบิดขนาดใหญ่กลางทุ่งนา พร้อมสะเก็ดระเบิดกระเด็นไปโดนต้นไม้โดยรอบ สะท้อนแรงระเบิดที่เกิดขึ้น ก่อนที่ทหารจะยืนยันว่าเป็นลูกปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชา
นายสุพล คชาบุตร ผู้ใหญ่บ้านบ้านหว้า เล่าว่า ช่วงเช้ามืดได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังสนั่นหลายนัด ก่อนชาวบ้านแจ้งว่ามีลูกระเบิดตกท้ายหมู่บ้าน คาดว่ามีตกลงมาราว 5 ลูก พบแล้ว 2 ลูก และเชื่อว่าฝั่งเขมรอาจพุ่งเป้าโจมตีพื้นที่พลเรือน ทำให้ต้องประกาศให้ชาวบ้านที่ยังไม่อพยพเฝ้าระวังและอยู่ใกล้หลุมหลบภัยตลอดเวลา
#ภูมิภาค-55








