วันที่ 2 ธ.ค.68 ที่ศาลปกครองสูงสุด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคาร C พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้บริหารระดับสูงของศาลปกครอง (รองประธานศาลปกครองฯ 2 คนและ ประธานแผนกฯ 1 คน) เพื่อขอให้ถอนตัวจากการพิจารณาคดีของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองไว้ พร้อมกับขอให้เพิกถอนความเห็นทางคดีด้วย
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่เมื่อวานที่ผ่านมาตนเองได้เดินทางไปยื่นฟ้องผู้บริหารศาลปกครองทั้ง 3 ท่าน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 172 เนื่องจากมีพฤติการณ์การจงใจกระทำการหรือใช้อำนาจในทางมิชอบอันเป็นการกลั่นแกล้งและกระทบสิทธิ์ของตน
จากกรณีที่รองประธานศาลปกครองฯ มอบหมายให้ประธานแผนกคดีฯ เข้ามาพิจารณาคดีของตนเองที่ได้ร้องเรียนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไว้ ซึ่งตนทราบในภายหลังว่าประธานแผนกคดีฯ ท่านนี้ได้มีการโพสต์ข้อความลงในกลุ่ม LINE ในทำนองเชิญชวนตุลาการมาให้กำลังใจ ประธานศาลปกครองฯ และประธานแผนกคดีฯ คนก่อนหน้านี้ ที่พิจารณาคดีของตนเองและปรากฏคลิปเสียงเข้าไปแทรกแซงการพิจารณาคดี และตนเองได้ไปยื่นฟ้องคดีไว้แล้ว แต่สุดท้ายประธานแผนกคดีฯ คนโพสต์ข้อความ ลงในกลุ่ม LINE ก็ได้รับมอบหมายจากรองประธานศาลปกครองฯ มาพิจารณาคดีของตนเอง จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะท่านมีพฤติกรรมที่มีลักษณะโน้มเอียง ทำให้ตนเอง รู้สึกว่าไม่มั่นใจ ไม่เชื่อมั่น ว่าจะได้รับความยุติธรรม วันนี้จึงทำหนังสือ มาถึงผู้บริหารศาลปกครองทั้ง 3 ท่านให้ทราบว่า ตนเอง ได้ยื่น ฟ้องทั้ง 3 ท่าน เป็นจำเลยในคดีอาญา จึงควรต้องถอนตัวจากการทำคดีของตนเอง และขอให้เพิกถอนความเห็นทั้งหมด ในทางคดี ด้วย
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ไปยื่นหนังสือถึง ร้องเรียนให้ตรวจสอบ ประธาน ปปช. คนปัจจุบัน ต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้พิจารณา กรณีกระทำละเมิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลดำเนินการตรวจสอบ หากพบว่ามีมูลว่าละเมิดกฎหมาย รัฐธรรมนูญจริงจะต้องมีบทลงโทษต่อไป








