ดนตรี / รุ่งฟ้า ลิ้มหัสนัยกุล ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว คอเพลงยุค 60-80 ที่ชอบดูหนังถูกใจมากเป็นพิเศษ เพราะมีหนังที่นำเอาบทเพลงอมตะที่คุ้นหูกันดีมา “เล่าเรื่อง” ได้สนุกและฟังเพลิน มีทั้งหนังที่สร้างจากเรื่องจริงอย่าง Bohemian Rhapsody เรื่องราวของ เฟร็ดดี้ เมอร์คิวรี่ และวง ควีน ที่นำเสนอในแบบสูตรสำเร็จ ขณะที่ Rocketman ที่เพิ่งออกฉายไปราวๆสองเดือนที่ผ่านมา เล่าเรื่องชีวิตของ เซอร์เอลตัน จอห์น ได้มีสีสันฉูดฉาดและล้ำลึกในสไตล์แฟนตาซี กับหนังที่หยิบเอาเพลงของวงดังๆมาใช้เป็นเส้นหลักในการเล่าเรื่อง ที่ผ่านมาก็มีอย่าง Mama Mia ทั้งสองภาค-กับเพลงของวง แอ็บบ้า ล่าสุดที่ลงโรงสัปดาห์นี้ นั่นคือ Yesterday หนังเพลงเชิดชูความดีงามของบทเพลงวง เดอะ บีเทิ่ลส์ ที่อยู่ยั้งยืนยงมาค่อนศตวรรษ และยังมีอิทธิพลกับวงดนตรีรุ่นหลังๆมากมายเกิดนิ้วนับ ออกตัวก่อนว่ายังไม่ได้ชม แต่จากหนังตัวอย่างที่เล่นกับคอนเส็ปท์ “เมื่อโลกไม่มี เดอะ บีเทิ่ลส์” ก็น่าสนุกไม่น้อย เหตุเกิดหลังไฟดับทั่วโลก แค่ 12 นาทีเท่านั้น แต่มันกลับเปลี่ยนโลกดนตรีโดยสิ้นเชิง เพราะจากวงดนตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกวงหนึ่ง กลายเป็นวงดนตรีที่ไม่เคยมีอยู่! แต่เพลงของพวกเขากลับคงอยู่-ผ่าน แจ็ค มาลิค (ไฮมิช พาเทล) นักร้อง/นักดนตรีที่ยังไล่ตามความฝัน เรื่องราวรายละเอียดต่างๆ จะสนุกได้อย่างคอนเส็ปท์ไหม? ต้องไปหาคำตอบในโรง แต่พื้นที่นี้-เป็นเรื่องของ “เพลง” เราก็จะพูดถึงซาวน์ดแทร็คหนังเรื่องนี้กัน เพลงเกือบทั้งหมดเป็นของ เดอะ บีเทิ่ลส์-แน่นอนอยู่แล้ว-ยกเว้น “Summer Song” ที่แต่งโดย ริชาร์ด เคอร์ติส (คนเขียนบท), แดเนี่ยล เพมเบิลตัน (คนทำสกอร์เรื่องนี้) และ เอเดม อิลฮาน กับสกอร์ของ เพมเบิลตัน-ที่โดยมากเป็นเพลงบรรเลงสั้นๆเชื่อมต่อกับเพลงของ เดอะ บีเทิ่ลส์ ได้กลมกลืนพอเหมาะ ทั้งหมดรวมกัน 27 เพลงในเวลา 57 นาที เรียกว่าฟังกันเพลินต่อเนื่อง-ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเพลง เดอะ บีเทิ่ลส์ หรือไม่ก็ตาม ไฮเมช พาเทล ผ่านออดิชั่นมารับบทนำเป็น แจ็ค มาลิค ได้ด้วยการเล่นกีตาร์อะคูสติคและร้องเพลง “We Never Change” ของ โคลด์เพลย์ ไม่น่าแปลกใจที่เสียงร้องในหนังและในซาวน์ดแทร็คชุดนี้จะเป็นของเขาทั้งหมด (มีร้องคู่กับ ลิลี่ เจมส์ นางเอกในเพลง “I Want to Hold Your Hand”) และ พาเทล ก็ทำหน้าที่นี้ได้สมบูรณ์แบบ แม้จะมีเงาใหญ่โตของต้นฉบับปกคลุม แต่เขาก็สามารถดึงตัวเองให้ออกมาฉายแสงเปล่งประกายได้อย่างน่าทึ่ง อย่าง “The Long and Winding Road” เป็นเวอร์ชั่นเหงาเศร้าที่สุดที่เคยฟังมา เช่นเดียวกับ “Something” ขณะเดียวกันก็มีความสดใสในเพลงอย่าง “Here Come the Sun”, “Ob-La-Di Ob-La-Da”, “She Loves You” และร็อคได้สุดกับ “Help!” ที่ดนตรีทำออกมาเป็นพั้งค์มันๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนนำเพลงของ เดอะ บีเทิ่ลส์ มาทำใหม่ แต่นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำออกมาได้เหนือความคาดหมาย สำเนียงดนตรีรวมแม้จะยังรักษาต้นฉบับแต่ก็มีการสร้างอารมณ์ใหม่ๆ ร่วมสมัย แต่ที่ดีงามที่สุดคือเสียงร้องเปี่ยมอารมณ์ของ ไฮมิช พาเทล