เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 29 ส.ค.62 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และ พล.ต.ต.ประสิทธิ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค แถลงผลการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า มูลค่า 50 ล้านบาท ณ ชั้น 1 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 1166 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
นายเทวัญ กล่าวเปิดเผยว่า เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 28 ส.ค.62 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โสมาภา ผบก.ร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ/หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ชปพ.สคบ.) พ.ต.ท.วัชรพัฒน์ เรืองอัครนนท์ รอง ผกก.ป.สน.เพชรเกษม ร.ต.อ.ทวีทรัพย์ ชัยภูมิ รอง สว.สส.กก.ตม.1 และ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ เลขานุการกรม สคบ./รองหัวหน้าชุดฯ นำกำลังมาเฝ้าสังเกตการณ์ อยู่บริเวณไปรษณีย์ศูนย์ฝากหัวลำโพง หลังทำการขยายผลจากการตรวจยึดในครั้งก่อน ที่มีการขายบุหรี่ไฟฟ้าโดยการถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์ ว่า มีการใช้รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าในการขนส่งบุหรี่ไฟฟ้า มาส่งให้กับลูกค้าบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งพบรถเก๋งต้องสงสัย จึงเข้าแสดงตัวขอทำการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้าซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ จากสอบถามผู้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวทราบว่า ได้รับแจ้งจากระบบ Grab Tax ว่า มีผู้ว่าจ้างให้นำสินค้าไปส่ง โดยได้รับสินค้าของกลางมาจากบ้านเลขที่ 99/52 หมู่บ้านมัณฑนาซอย 10 ถนนประชาอุทิศ 72 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.
ต่อมาเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 29 ส.ค.62 ทางชุดปฏิบัติการพิเศษเกี่ยวกับการคุ้มครอง และชุดปฏิบัติการพิเศษ สคบ.จึงได้ประสาน พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ทุ่งครุ นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นในบ้านเลขที่หลังดังกล่าว ได้พบนายกฤศณัฏฐ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลและยินยอมให้เข้าตรวจค้นโดยไม่ต้องใช้หมายค้น ผลการตรวจค้นพบสินค้าที่ผิดกฎหมายดังกล่าวอยู่ในบ้าน ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บและกระจายสินค้าจำนวนมาก มีบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 5 ลัง น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 16 ลัง อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 15 ลังและกล่องเล็ก 160 กล่อง สมุดรับโอนเงินจากลูกค้าจำนวน 2 เล่มและอุปกรณ์อื่นหลายรายการ รวมมูลค่าของกลางประมาณ 50 ล้านบาท
นายเทวัญ กล่าวต่อท้ายว่า จากสอบถามนายกฤศณัฏฐ์ ยอมรับว่า สินค้าดังกล่าวเป็นของตนและมีไว้เพื่อขายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อออนไลน์ โดยจะส่งสินค้าผ่านไปรษณีย์ศูนย์ฝากหัวลำโพง ตามที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึด จึงควบคุมตัวและได้ตรวจยึดสินค้าไปประกอบการดำเนินคดี ซึ่งการขายสินค้าดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 4/2548 เรื่องห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้าบารากู่บารากู่ไฟฟ้าบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าผู้ใดขายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ. ศ.2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 500, 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ขอเตือนผู้บริโภคให้เล็งเห็นถึงพิษภัยของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีสารอันตรายหลายชนิดและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ต่อมาเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 29 ส.ค.62 ทางชุดปฏิบัติการพิเศษเกี่ยวกับการคุ้มครอง และชุดปฏิบัติการพิเศษ สคบ.จึงได้ประสาน พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ทุ่งครุ นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นในบ้านเลขที่หลังดังกล่าว ได้พบนายกฤศณัฏฐ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลและยินยอมให้เข้าตรวจค้นโดยไม่ต้องใช้หมายค้น ผลการตรวจค้นพบสินค้าที่ผิดกฎหมายดังกล่าวอยู่ในบ้าน ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บและกระจายสินค้าจำนวนมาก มีบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 5 ลัง น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 16 ลัง อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 15 ลังและกล่องเล็ก 160 กล่อง สมุดรับโอนเงินจากลูกค้าจำนวน 2 เล่มและอุปกรณ์อื่นหลายรายการ รวมมูลค่าของกลางประมาณ 50 ล้านบาท
นายเทวัญ กล่าวต่อท้ายว่า จากสอบถามนายกฤศณัฏฐ์ ยอมรับว่า สินค้าดังกล่าวเป็นของตนและมีไว้เพื่อขายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อออนไลน์ โดยจะส่งสินค้าผ่านไปรษณีย์ศูนย์ฝากหัวลำโพง ตามที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึด จึงควบคุมตัวและได้ตรวจยึดสินค้าไปประกอบการดำเนินคดี ซึ่งการขายสินค้าดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 4/2548 เรื่องห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้าบารากู่บารากู่ไฟฟ้าบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าผู้ใดขายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ. ศ.2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 500, 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ขอเตือนผู้บริโภคให้เล็งเห็นถึงพิษภัยของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีสารอันตรายหลายชนิดและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ