วันที่ 27 ส.ค.62 พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.ตม.5 ได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.ธีรุตม์เทวัญ มังคละวัชร์ ผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ ณ กรุงย่างกุ้ง และนายธันวา ผุดผ่อง อัครทูตที่ปรึกษาฝ่ายควบคุมยาเสพติด ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท่าขี้เหล็กได้ควบคุมตัวนายมารุจณ์ หรือกล้วย มาตุรินทร์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็น 1 ในแกนนำของแก๊งมันทุกเม็ด ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญของประเทศไทยเอาไว้ และพร้อมจะส่งตัวกลับคืนให้มาดำเนินคดีในไทยแล้ว ต่อมาเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ประเทศเมียนมา ได้ควบคุมตัวนายมารุจณ์ มาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ ทาง ตม.จว.เชียงราย ที่จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าว เป็นผู้ที่มีหมายจับ 3 ข้อหา ของศาลอาญา ที่ 346/2561 ลงวันที่ 20 ก.ค. 2561 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ,หมายจับศาล จ.พิจิตร ที่ 215/2560 ลงวันที่ 27 ธ.ค. 2560 ข้อหา ความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ และหมายจับจากศาล จ.ชุมพร ที่ จ 41/2562 ลงวันที่ 18 ก.พ. 62 ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยแสดงความทารุณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจและทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจและกักขังหน่วงเหนี่ยวฯ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจึงได้แสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายเมียนมา ที่ได้ออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ เนื่องจากที่ผ่านมามีเครือข่ายยาเสพติดแก๊งนี้หลายคน ได้หลบหนีไปยังฝั่งประเทศเมียนมา โดยเฉพาะนายมารุจณ์ ที่ต้องสงสัยว่าเป็นคนระดับรองจากนายปัณณวิชญ์ ประทุม ชาว จ.พิจิตร ที่เป็นหัวหน้าแก๊งตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรณีการข่มขู่และทำร้ายผู้อื่นจนมีชื่อเสียงโด่งดัง หลังก่อเหตุได้หลบหนีมาพร้อมกับพวกอีกหลายคนไปอยู่ในเขตอิทธิพลของกลุ่มว้า ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นายมารุจณ์ เองได้ถูกเจ้าหน้าที่เมียนมายิงจนได้รับบาดเจ็บ เพราะขับรถแหกด่านบริเวณสนามบินท่าขี้เหล็ก ช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และถูกจับกุมตัวขณะไปรักษาตัวที่ รพ.ท่าขี้เหล็ก กระทั่งเวลาผ่านมากว่า 4 เดือน ทางเจ้าหน้าที่เมียนมา จึงได้ติดต่อส่งมอบตัวให้กับทางการไทยมารับตัวไปดำเนินคดีดังกล่าว