"เทพไท" แนะ จับตาศาลรธน. ชี้ ขาดยุบพรรคปชช. หวั่นเป็นบรรทัดฐานทางการเมือง ทำส.ส.ย้ายพรรคสะดวกโยธิน เมื่อวันที่ 27 ส.ต. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงมติ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ให้ยุบพรรคประชาชนปฏิรูปว่า ไม่ได้เกินความคาดหมาย เพราะเป็นอำนาจและหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องวินิจฉัยและมีมติในเรื่องนี้ เมือมีพรรคการเมืองยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคของตัวเอง จึงหลีกเลี่ยงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากจะยุบพรรคตามคำร้องเท่านั้น แต่ปัญหาที่ตามมาหลังจากมีมติของ กกต.ให้ยุบพรรคประชาชนปฏิรูปแล้ว จะต้องพิจารณาในปัญหาอยู่ 4 ประเด็น คือ 1.เมื่อพรรคประชาชนปฏิรูปยุบตัวเองลง จะทำให้คะแนนของพรรคในระบบบัญชีรายชื่อถูกยุบไปด้วยหรือไม่ เพราะถ้าคะแนนของพรรคถูกยุบหายไป จะทำให้ ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคสิ้นสภาพไปด้วยหรือไม่ 2.เมื่อพรรคประชาชนปฏิรูปยุบตัวเอง และ ส.ส.ของพรรคประกาศตัวไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ จะต้องนำคะแนนของพรรคประชาชนปฏิรูปไปรวมกับคะแนนของพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ และมีวิธีการรวม และคิดสัดส่วนคะแนนกันอย่างไร 3.ถ้าหากการนำคะแนนของพรรคประชาชนปฏิรูปจะไปรวมกับคะแนนของพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ก็ตาม ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาชนปฏิรูปจะไปอยู่ใน ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ ในลำดับที่เท่าไหร่ 4.ถ้า ส.ส.ของพรรคประชาชนปฏิรูปย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ เฉพาะตัว ส.ส.เท่านั้น อยากถามว่า คะแนนของพรรคประชาชนปฏิรูปที่หายไปจะทำอย่างไร จะขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ ที่ยึดหลักทุกคะแนนจะไม่ตกน้ำ "ผมอยากจะให้จับตาดูคำวินิจฉัยของศาลธรรมนูญ ว่าจะออกอย่างไร เพราะจะเป็นบรรทัดฐานทางการเมืองในวันข้างหน้า ถ้าการยุบพรรคประชาชนปฏิรูปในครั้งนี้ สามารถทำได้ และทำให้ส.ส.ย้ายพรรคได้ตามสะดวกเช่นนี้ เลือกตั้งครั้งต่อไป เชื่อได้ว่าจะมีพรรคการเมืองหลายพรรค ใช้วิธีการแยกตัว มาตั้งพรรคสาขา พรรคนอมินี พรรคคู่ขนาน พรรคแนวร่วม พรรคพี่พรรคน้อง เพื่อลงสนามเลือกตั้ง หลังเลือกตั้งเสร็จก็ยื่นคำร้องยุบพรรคเพื่อรวมกับพรรคการเมืองหลัก ทำให้เกิดพรรคการเมืองใหญ่ มีความเข้มแข็ง เพื่อจะได้เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไป และเราก็จะหนีสังคมการเมืองแบบศรีธนญชัยไปไม่พ้นแน่นอน"นายเทพไท กล่าว