"พิพัฒน์"ชูยะลาเมืองท่องเที่ยวปลอดภัย นายกเทศมนตรีฯ ปลื้ม! คนต่างถิ่นร่วมมาราธอนคึกคัก เชิ่ื่อสร้างความสามัคคีด้าน กกท.เล็งยกระดับสู่สากล
เมิ่อวันที่ 27 ส.ค. ที่สนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลจังหวัดยะลา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬามอบหมายให้นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรมว.การท่องเที่ยวฯ พร้อมด้วย นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ร่วมกับ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท.) เป็นประธานในการปล่อยตัวการแข่งขัน ยะลา มาราธอน 2019 ครั้งที่ 1 เพื่อส่งเสริมสุขภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดยะลา โดยมีเยาวชน ประชาชนเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 5,000 คน
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า จังหวัดยะลามีความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะการก้าวเข้าสู่เมืองอัจฉริยะ หรือ “สมาร์ทซิตี้” ซึ่งยะลา มาราธอน เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความร่วมมือดีมากจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน ประชาสังคม เป็นสิ่งสะท้อนความเข้มแข็งของท้องถิ่น ที่สำคัญตนมีความเชื่อว่า บ้านเมืองไหนก็ตามถ้ามีความสามัคคี เรื่องยากจะเป็นเรื่องง่าย “ยะลามีความพร้อมมาก แต่หลายคนยังคงติดภาพในอดีต เพราะฉะนั้นที่เราจัดยะลามาราธอน ผมก็หวังว่า การที่คนมาร่วมงานจำนวนมาก และเป็นคนต่างถิ่นประมาณ 40% ก็คงสามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์ของยะลาได้”
ด้าน ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ถือเป็นการจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของจังหวัดยะลา ต้องขอบคุณจังหวัดยะลาที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งนี้ซึ่งต้องบอกว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีประชาชนที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ เข้าร่วมการแข่งขันกันมากมาย แสดงให้เห็นว่า ยะลาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายๆคนคิด และเป็นการเปิดให้คนทั่วไปได้รับรู้ถึงความงดงามของจังหวัดยะลา
“หลังจากครั้งแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ก็ได้คุยกับทางจังหวัดยะลาเช่นกันว่าจะหาวิธียกระดับยะลามาราธอนให้ได้มาตรฐานขึ้นอีก กระทั่งกลายเป็นงานวิ่งระดับแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งต้องหารือกับสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยด้วย ซึ่งต้องค่อยเป็นค่อยไป คงต้องเริ่มจากการ ทำให้เป็น ไทยแลนด์ สแตนดาร์ด แล้วจึงค่อยๆพัฒนาไปสู่ระดับ ตามด้วย บรอนซ์, ซิลเวอร์ และ โกลด์ เลเบิล ในอนาคต”
ดร.ก้องศักด กล่าวและว่า นอกจากนี้กกท. มีแนวคิดที่จะดำเนินนโยบาย Thailand Sports Nation ที่จะปรับรูปแบบเพื่อให้เข้าถึงเยาวชนให้มาสนใจกีฬากันมากขึ้น โดยมีการนำรูปแบบการนำเสนอที่ทันสมัย เข้าถึงและสนุกสนานในรูปแบบ SPORT ENTERTAINMENT รวมถึงกิจกรรม SAT SPORTS EXPO เพื่อยกระดับการแข่งขันให้มีมาตรฐานโดยเฉพาะการแข่งขันยะลามาราธอน 2562 ให้รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น
สำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอนครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่จังหวัดยะลาได้จัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพ รวมถึงสร้างความสามัคคีให้แก่ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
โดยจัดการแข่งขันทั้งหมด 4 ระยะ ประกอบด้วย มาราธอน 42.195 กิโลเมตร,ฮาร์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร, มินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร และฟันรัน 5 กิโลเมตรโดยผลการแข่งขัน ระยะ 42.195 กิโลเมตร บุคคลทั่วไป ปรากฏว่า ฝ่ายชาย บุญนำ หอมหนัก วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 02.59.46 ชม. คว้าแชมป์ไปครอง ขณะที่ ฝ่ายหญิง ตรีนุช เกิดทองคำ วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 04.21.53 ชม. คว้าแชมป์ไปครองเช่นกัน
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า จังหวัดยะลามีความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะการก้าวเข้าสู่เมืองอัจฉริยะ หรือ “สมาร์ทซิตี้” ซึ่งยะลา มาราธอน เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความร่วมมือดีมากจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน ประชาสังคม เป็นสิ่งสะท้อนความเข้มแข็งของท้องถิ่น ที่สำคัญตนมีความเชื่อว่า บ้านเมืองไหนก็ตามถ้ามีความสามัคคี เรื่องยากจะเป็นเรื่องง่าย “ยะลามีความพร้อมมาก แต่หลายคนยังคงติดภาพในอดีต เพราะฉะนั้นที่เราจัดยะลามาราธอน ผมก็หวังว่า การที่คนมาร่วมงานจำนวนมาก และเป็นคนต่างถิ่นประมาณ 40% ก็คงสามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์ของยะลาได้”
ด้าน ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ถือเป็นการจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของจังหวัดยะลา ต้องขอบคุณจังหวัดยะลาที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งนี้ซึ่งต้องบอกว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีประชาชนที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ เข้าร่วมการแข่งขันกันมากมาย แสดงให้เห็นว่า ยะลาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายๆคนคิด และเป็นการเปิดให้คนทั่วไปได้รับรู้ถึงความงดงามของจังหวัดยะลา
“หลังจากครั้งแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ก็ได้คุยกับทางจังหวัดยะลาเช่นกันว่าจะหาวิธียกระดับยะลามาราธอนให้ได้มาตรฐานขึ้นอีก กระทั่งกลายเป็นงานวิ่งระดับแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งต้องหารือกับสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยด้วย ซึ่งต้องค่อยเป็นค่อยไป คงต้องเริ่มจากการ ทำให้เป็น ไทยแลนด์ สแตนดาร์ด แล้วจึงค่อยๆพัฒนาไปสู่ระดับ ตามด้วย บรอนซ์, ซิลเวอร์ และ โกลด์ เลเบิล ในอนาคต”
ดร.ก้องศักด กล่าวและว่า นอกจากนี้กกท. มีแนวคิดที่จะดำเนินนโยบาย Thailand Sports Nation ที่จะปรับรูปแบบเพื่อให้เข้าถึงเยาวชนให้มาสนใจกีฬากันมากขึ้น โดยมีการนำรูปแบบการนำเสนอที่ทันสมัย เข้าถึงและสนุกสนานในรูปแบบ SPORT ENTERTAINMENT รวมถึงกิจกรรม SAT SPORTS EXPO เพื่อยกระดับการแข่งขันให้มีมาตรฐานโดยเฉพาะการแข่งขันยะลามาราธอน 2562 ให้รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น
สำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอนครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่จังหวัดยะลาได้จัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพ รวมถึงสร้างความสามัคคีให้แก่ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
โดยจัดการแข่งขันทั้งหมด 4 ระยะ ประกอบด้วย มาราธอน 42.195 กิโลเมตร,ฮาร์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร, มินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร และฟันรัน 5 กิโลเมตรโดยผลการแข่งขัน ระยะ 42.195 กิโลเมตร บุคคลทั่วไป ปรากฏว่า ฝ่ายชาย บุญนำ หอมหนัก วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 02.59.46 ชม. คว้าแชมป์ไปครอง ขณะที่ ฝ่ายหญิง ตรีนุช เกิดทองคำ วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 04.21.53 ชม. คว้าแชมป์ไปครองเช่นกัน