เมื่อวันที่ 27ส.ค.62 พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ภารดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุมนายอิศรา มะลิวรรณ์ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1817/54 ในข้อหา ร่วมกันประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกง ได้ที่บ้านพักใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ว่ามีประชาชนถูกกลุ่มคนร้ายอ้างตัวมาจากบริษัทเอกชนที่แอบอ้างว่าประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนนายหน้าซื้อขายสัญญาล่วงหน้า โดยมีพนักงานโทรศัพท์ไปชักชวนให้นำเงินมาลงทุนกับบริษัทอ้างว่าการลงทุนให้ผลตอบแทนสูงในรูปกำไรจากส่วนต่างของการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันดิบ ดัชนีหลักทรัพย์ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลปอนด์ แต่เมื่อตรวจสอบบริษัทแล้วปราฏว่าไม่ได้ประกอบธุรกิจริงตามที่กล่าวอ้างและไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแต่อย่างใด อีกทั้งไม่มีคำสั่งซื้อขายหรือโอนเงินให้แก่โบรกเกอร์ ต่างประเทศ เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหายเป็นเงิน 782,800 บาท
ต่อมาพนักงานสอบสวน สามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 8 คน ในข้อหา ร่วมกันประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกง โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวไปบางแล้ว บางรายได้เข้ามอบตัว สอบสวนผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ อ้างว่าได้รับการชักชวนจากเพื่อนให้มาช่วยทำงานโดยไม่ทราบว่าเป็นความผิด และมิได้รับค่าตอบแทนแต่อย่างใด ทั้งนี้บก.ปอศ. ใคร่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ข้อมูลแก่ประชาชนขอให้ใช้ความระมัดระวังในการลงทุน
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ว่ามีประชาชนถูกกลุ่มคนร้ายอ้างตัวมาจากบริษัทเอกชนที่แอบอ้างว่าประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนนายหน้าซื้อขายสัญญาล่วงหน้า โดยมีพนักงานโทรศัพท์ไปชักชวนให้นำเงินมาลงทุนกับบริษัทอ้างว่าการลงทุนให้ผลตอบแทนสูงในรูปกำไรจากส่วนต่างของการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันดิบ ดัชนีหลักทรัพย์ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลปอนด์ แต่เมื่อตรวจสอบบริษัทแล้วปราฏว่าไม่ได้ประกอบธุรกิจริงตามที่กล่าวอ้างและไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแต่อย่างใด อีกทั้งไม่มีคำสั่งซื้อขายหรือโอนเงินให้แก่โบรกเกอร์ ต่างประเทศ เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหายเป็นเงิน 782,800 บาท
ต่อมาพนักงานสอบสวน สามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 8 คน ในข้อหา ร่วมกันประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกง โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวไปบางแล้ว บางรายได้เข้ามอบตัว สอบสวนผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ อ้างว่าได้รับการชักชวนจากเพื่อนให้มาช่วยทำงานโดยไม่ทราบว่าเป็นความผิด และมิได้รับค่าตอบแทนแต่อย่างใด ทั้งนี้บก.ปอศ. ใคร่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ข้อมูลแก่ประชาชนขอให้ใช้ความระมัดระวังในการลงทุน