วันนี้ 25 ส.ค.62 เวลา10.00 น. ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายธวัชชัย ศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ ประจำปี 2562 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ภายในงานมีพิธีเปิดศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจังหวัดบึงกาฬ การแสดงดนตรีพื้นบ้านจากวงโปงลางสิรินธรวัลลีของโรงเรียนบึงกาฬ การแสดงดนตรีพื้นบ้าน จากเด็กๆ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ การแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของดีจากชุมชนต่างๆ ทั้ง 8 อำเภอ ซึ่งมีแขกผู้มีเกียรติ ส่วนราชการ พ่อค้าและประชาชนร่วมกิจกรรมจำนวนมาก นายนิพนธ์ คนขยัน นายก อบจ.บึงกาฬ กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นกิจกรรม ที่มีการขยายตัวสูงและมีความสำคัญ ต่อระบบเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งรายได้ นำมาซึ่งเงินตรา การสร้างงาน และการกระจายความเจริญไปสู่ท้องถิ่นจึงส่งผลให้ทุกจังหวัดส่งเสริมสนับสนุน และแข่งขันด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังแสวงหารูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ๆเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ได้ร่วมกับสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทและหน้าที่ในการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดบึงกาฬ จึงได้ร่วมกันจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬให้เป็นที่รู้จัก ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ เนื่องจากจังหวัดบึงกาฬ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและสมบูรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก เช่น หินสามวาฬ บนภูสิงห์ น้ำตกถ้ำพระ น้ำตกเจ็ดสีทะเลบัวแดง@หนองเลิง และพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต อ.โซ่พิสัย แหล่งเรียนรู้พื้นเพชาวอีสาน บนบ้านไม้หลังเก่า เป็นต้น อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นรอนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยวันแรกของงานวันนี้มีกิจกรรมเปิดศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จังหวัดบึงกาฬ เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลและจุดบริการแก่นักท่องเที่ยว และในวันที่ 2 จะมีกิจกรรม “บึงกาฬมอเตอร์ไบค์แรลลี่ทัวร์ 2019” เส้นทางภายในจังหวัดบึงกาฬ รวมระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร โดยศูนย์แห่งนี้ยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อบ้านอาเซียนอย่าง สปป.ลาว ได้อีกด้วย