นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการมหาวิทยาลัย เกียวโต ซึ่งหลบหนีคดีหมิ่นเบื้องสูง ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า...มีเรื่องอึดอัดใจที่ว่าจะเขียนให้อ่านตั้งนานแล้ว วันนี้ตื่นเช้า เลยขอระบายความอึดอัดหน่อยค่ะ หลังจากเกิดเหตุทำร้ายร่างกายดิชั้น ในทันที ตำรวจขอให้ยุติการใช้โซเชี่ยลมีเดีย และขอให้ดิชั้นอย่าพูดมากเรื่องนี้ รวมถึงอย่าเพิ่งบอกสื่อมวลชน เพราะตำรวจเห็นว่าจะเสียรูปคดี ถ้าใครจำได้วันนั้น หลังเกิดเหตุ ดิชั้นเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นทาทายัง สาเหตุเพราะคับเแค้นใจ จึงต้องการส่งขัอความไปหาไอ้คนที่สั่งการทำร้ายร่างกายให้รู้ว่า ดิชั้นยังสุขสบายดี ยังไม่ตายห่า แต่เปลี่ยนรูปได้สักครู่ ตำรวจญี่ปุ่นก็มาตำหนิดิชั้น บอกแล้วว่าขออย่าเพิ่งเคลื่อนไหวใดๆ ดิชั้นเลยต้องยุติและหายไปจากโซเชี่ยลหลังจากนั้น จนกระทั่งมีหลายคนเริ่มสงสังว่าดิชั้นหายไปไหน บ้างก็บอกว่า ดิชั้นทะเลาะกับคู่ขา บ้างก็ว่าเตียงหักบ้าง คือคนที่พูดแบบนี้มาจากคนที่สนิทด้วยซ้ำ ทำไมคนสนิทกันขนาดนั้น ถึงได้สันนิษฐานเรื่องที่มันทุเรศแบบนี้ พอข่าวหลุดว่าดิชั้นถูกทำร้าย คนพวกนี้กลับมาตำหนิดิชั้นว่าทำไมดิชั้นไม่ส่งข่าวผู้ลี้ภัยคนอื่นให้เค้ารู้เรื่อง ให้เค้าเตรียมรับมือเผื่อว่าเค้าจะกลายเป็นเหยื่อด้วย...พ่อแม่มึงตายค่ะ เป็นผู้ลี้ภัยไม่พอ ดิชั้นต้องเป็นพระเยซู พระแม่มารี ต้องเป็นแม่ชีเทเรซ่า ต้องเป็นเนลสัน แมนเดลา เพื่อมาถ่ายบาปพวกผู้ลี้ภัยคนอื่น ต้องยอมเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อให้คนอื่นอยู่รอด ดิชั้นไม่ได้เป็นชินด์เลอร์ที่จะมาช่วยชีวิตชาวยิว แค่จะเอาตัวเองให้รอดตอนนั้นก็ทำแทบไม่ได้ ดิชั้นมาขอพักอาศัยที่ญี่ปุ่น และต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต เมื่อตำรวจญี่ปุ่นขอร้องดิชั้น มหาลัยเกียวโตขอร้องดิชั้นห้ามบอกใคร ทำไมดิชั้นต้องยอมทะเลาะกับตำรวจและมหาลัย เพื่อบอกผู้ลี้ภัยคนอื่น ดิชั้นต้องขอความคุ้มครองจากตำรวจญี่ปุ่น ดิชั้นจึงมีภารกิจและหน้าที่ที่ต้องเชื่อฟังทางการญี่ปุ่น ดิชั้นต้องเอางานของดิชั้นมาก่อน ต้องเชื่อฟังมหาลัย เพราะไม่มีงาน ดิชั้นก็อดตาย ทำไมผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถึงมาบังคับให้ดิชั้นต้องแตกหักกับประเทศที่ดูแลดิชั้นอยู่ เพียงเพื่อต้องการบอกข่าวนี้กับพวกเค้า ดิชั้นต้องทำเท่าไหร่ถึงจะให้ทุกคนพอใจ เป็นผู้ลี้ภัยเหมือนกัน จะมาเอาอะไรจากดิชั้นมากมาย ทุกคนต้องรู้ว่า หลังจากสุรชัยตาย ทุกคนเป็นเหยื่อเท่าๆ กันทั้งหมด ไม่ต้องรอให้ดิชั้นบอก ดิชั้นเบื่อมากกับคำร้องขอเหล่านี้ ถึงเวลาที่ดิชั้นขอเห็นแก่ตัวบ้าง นี่มันคือชีวิตกูเหมือนกันค่ะ อ้อ อีกเรื่อง แล้วยังมีคนอีกประเภทหนึ่ง อยากจะเป็นมิตรกับดิชั้น แต่ก็กลัวว่าทางการจะรู้ กลัวว่าตัวเองจะตกเป็นเป้าหมาย อันนี้รำคาญ ถ้าลำบากนัก ไม่ต้องมาเป็นเพื่อนดิชั้น ดิชั้นมีหมากับผัวเป็นเพื่อนเท่านั้นพอแล้วค่ะ ไอ้ฉิบหาย