เหตุระทึก! ย่านกลางเมือง ไฟไหม้ร้านอมรจำหน่ายเครื่องใช้อีเล็คโทนิคส์พื้นที่ห้างโลตัส สาขากาญจนบุรี เปลวเพลิงหวิดลุกลามเข้าภายในห้างฯ เดชะบุญเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิง 4 เทศบาล พร้อมเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าสนธิกำลังเดินทางมาทำการตัดไฟและฉีดน้ำสกัดกั้นเพลิงไหม้ไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้างนานเกือบ 1 ชม.เพลิงจึงสงบ โดยมีนายก(หญิง)เทศบาลเมืองกาญจนบุรี เดินทางมาอำนวยการสั่งการด้วยตนเอง. ส่วนสาเหตุ ผจก.ร้านเปิดเผย ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงร้านปิดแล้ว พนักงานภายในร้านได้กลิ่นเหม็นไหม้ และควันไฟพัดโชยออกมา เพียง 3 นาที เปลวไฟก็ลุกไหม้ออกมาอย่างรวดเร็ว ค่าเสียหายตัวอาคารและสินค้า ประมาณ 5 ล้านบาท ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าทีตำรวจ คาดไฟฟ้ารัดวงจร เวลา 19.00 น.ของวันที่ 24 ส.ค.62 ร.ต.อ.ชัยรัตน์ จันทร์อนันต์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านอมรอีเล็คโทนิคส์ ซึ่งเป็นร้านซ่อมและจำหน่ายสินค้าจำพวกอุปกรณ์อีเล็คโทนิคส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งอยู่ในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าโลตัสฯ สาขากาญจนบุรี เลขที่ 335/3 ถนนแสงชูโต เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ หลังรับแจ้งจึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องจากนั้นจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ารถดับเพลิงของเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ซึ่งนำโดยดร.เบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศมนตรี(หญิง)เทศบาลเมืองกาญจนบุรี กำลังยืนอำนวยการสั่งการให้พนักงานดับเพลิงทำการฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่ลุกลาม และขยายวงกว้าง ซึ่งในเวลาต่อมารถดับเพลิงของเทศบาลในพื้นที่ใกล้เคียง อีก 3 เทศบาล ได้แก่ เทศบาลตำบลปากแพรก เทศบาลตำบลท่าล้อ และเทศบาลตำบลท่ามะขาม รวมทั้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขากาญจนบุรี และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้สนธิกำลังเดินทางมาร่วมกันฉีดน้ำดับเพลิง ทำการตัดกระแสร์ไฟฟ้าออกจากอาคารจุดเกิดเหตุ ไม่ให้กระแสร์ไฟฟ้ารัดวงจรลุมลามไปยังตัวอาคารห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส เนื่องจากตัวอาคารร้านอมรอีเล็คโทรนิคส์ เป็นตัวอาคารชั้นเดียว ซึ่งภายในตัวอาคารเป็นสำนักงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองกาญจนบุรี ตั้งอยู่ด้วย​ เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงได้ทำการฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิงไหม้ย่างรุนแรงทั้งภายใน และฉีดน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงตัวอาคารภายนอกเพื่อไม่ให้ลุกลามใหญ่โต เนื่องจากตัวอาคารด้านบนเป็นฝ้าเพดาน และภายในมีกล่องกระดาษสินค้าจำพวกอุปกรณ์อีเล็คโทนิคส์เสียเป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นเชื้อไฟได้เป็นอย่างดี โดยใช้เวลาในการดับเพลิงอยู่จานประมาณเกือบ 1 ชม.เพลิงจึงสงบ ตรวจสอบทรัพย์สินภายในร้านรวมทั้งเอกสารเครื่องใช้ในสำนักงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอฯ พบว่า ได้รับความเสียหายแทบจะหมดทั้งอาาร ค่าเสียหายรวมตัวอาคารและสินค้ารวมแล้วประมาณ 5 ล้านบาท เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำนางกัญญาวัฒน์ บุญป้อม ผจก.ร้านอมรอีเล็คโทนิคส์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้รับแจ้งจากพนักงานร้านว่า เวลาประมาณ 19.00 น.ตอนนั้นร้านปิดให้บริการแล้ว พนักงานกำลังจะเตรียมตัวกลับบ้าน ได้กลิ่นเหม็นไหม้เหมือนกระอสร์ไฟฟ้าช็อต จากนั้นก็เห็นควันไฟพัดโชยออกมาจากภายในร้าน เวลาผ่านไปแค่ 3-5 นาที ก็เกิดเปลวไฟลุกไหม้ตามออกมา ตกใจจึงโทรศัทพ์แจ้ง 191 ต่อมารถดับเพลิงก็วิ่งมาฉีดน้ำดับไฟไหม้ย่างรุนแรง ส่วนสาเหตุจากปากคำให้การขิงพนักงานร้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ น่าจะเกิดจากไฟฟ้ารัดวงจรก็เป็นได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการใช้เชือกปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุไว้ เพื่อห้ามไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุ เพื่อในเวลาเช้าจะได้ประสานเจ้าหน้า พฐ.ภ.จว.กาญจนบุรี ให่มาตรวจเก็บหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ...........................................