ตำรวจขอนแก่น รวบหนุ่มวัย 22 ปี หลังตระเวนก่อเหตุงัดบ้านเรือนประชาชน ก่อนหลบหนีไปซ่อนตัวข้ามอำเภอ สารภาพสิ้นนำเงินไปซื้อยาบ้าและยาไอซ์มาเสพ และก่อนลงมือต้องดมกาวทุกครั้งเพื่อความมั่นใจ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ส.ค.2562 พ.ต.อ.ประทีป ปัญโญวัฒน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ จงกลรัตน์ รอง ผกก. (สส.) สภ.เวฬุวัน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายศิริวัฒน์ เกี้ยงศรี อายุ 22 อยู่บ้านเลขที่ 80/255 ต.วัดใหม่ อ.เมือง จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า ยาไอซ์) มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในบ้านของเหยื่อที่ผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุ 2 หลังใกล้กัน ในพื้นที่ บ้านหนองเบ็ญ ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ภายในบ้านพักเลขที่ 49 ม.1 บ้านหนองแสง ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ท่ามกลางชาวบ้านที่มามุงดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในขั้นตอนต่างๆเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางความำม่พอใจของผู้เสียหาย ที่คต่างพากันด่าทอ ผู้ต้องหาอยู่ตลอดเวลา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลความเรียบร้อยตลอดเวลา เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
พ.ต.อ.ประทีป ปัญโญวัฒน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน กล่าวว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้าย ก่อเหตุลักทรัพย์และขโมยเอาทรัพย์สินไปในพื้นที่ ต.โนนท่อน ซึ่งผู้เสียหายนั้นมีบ้านอยู่ติดกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยหลังแรกผู้ต้องหาทำการงัดตู้เสื้อผ้าได้ทรัพย์สินไปเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น และหลังที่สอง งัดตู้เสื้อผ้าได้ทรัพย์สินไปทั้งหมดเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ แหวนทองน้ำหนัก 1 สลึงอีก 1 วงและ เงินสด 35,000บาท
" หลังรับแจ้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนหาตัวคนร้าย กระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาซึ่งเมื่อก่อนอาศัยอยู่กับมารดาที่บ้านหนองแสง ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง โดยต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาได้มาอาศัยอยู่กับบิดาที่บ้านหนองเบ็ญ ต.โนนท่อน แต่หลังจากเกิดเหตุได้หนีหายออกจากหมู่บ้านไป กำลังเจ้าหน้าที่ จึงได้สืบสวนหาข่าวและออกติดตาม จนพบตัวขณะนอนพักอยู่ภายในบ้านในเขต อ.น้ำพอง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นในห้องนอนของผู้ต้องหา โดบพบสร้อยคอทองคำหนัก 1บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ แหวนทอง 1 วง สร้อยคอทองคำหนัก 1 เส้น และเงินสด 3,900 บาท อยู่ในกระป๋องกาว 3 เค ซึ่งจากกการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งหมดมาจากบ้านของชาวบ้านที่บ้านหนองเบ็ญ ส่วนเงินสดที่ได้จากการก่อเหตุนั้นได้นำไปซื้อยาเสพติและแจกทิปสาวๆในสถานบันเทิง และก่อนที่จะลงมือก่อเหตุได้ดมสารระเหยจนมึนเมา"
ผกก.สภ.เวฬุวัน กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหาติดยาเสพติดอย่างหนัก ทั้งดมสารระเหย เสพยาบ้า และยาไอซ์ โดยจะนำยาบ้าและยาไอซ์มารวมกันแล้วเสพพร้อมตั้งชื่อว่าเมนูยำรวม และเมื่อไม่มีเงินซึ่งสิ่งเสพติด จึงลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งหมด แต่ยังไม่ได้เอาทรัพย์สินไปขาย เพราะการลงมือครั้งนี้ได้เงินสดจำนวนมาก จึงยังไม่ได้ขาย และเมื่อได้เงินมาก็ไปซื้อยาบ้าและยาไอซ์ จากเพื่อนมาเสพ เมื่อเสพแล้วก็จะขับขี่รถจักรยานยนต์ก็จะเข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงในเมืองขอนแก่น อย่างำรก็ตามภายหลังการควบคุมตัวผู้ต้องหาชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้ง 3 จุดเรียบร้อย จึงทำการควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสน สภ.เวฬุวัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ประทีป ปัญโญวัฒน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน กล่าวว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้าย ก่อเหตุลักทรัพย์และขโมยเอาทรัพย์สินไปในพื้นที่ ต.โนนท่อน ซึ่งผู้เสียหายนั้นมีบ้านอยู่ติดกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยหลังแรกผู้ต้องหาทำการงัดตู้เสื้อผ้าได้ทรัพย์สินไปเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น และหลังที่สอง งัดตู้เสื้อผ้าได้ทรัพย์สินไปทั้งหมดเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ แหวนทองน้ำหนัก 1 สลึงอีก 1 วงและ เงินสด 35,000บาท
" หลังรับแจ้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนหาตัวคนร้าย กระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาซึ่งเมื่อก่อนอาศัยอยู่กับมารดาที่บ้านหนองแสง ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง โดยต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาได้มาอาศัยอยู่กับบิดาที่บ้านหนองเบ็ญ ต.โนนท่อน แต่หลังจากเกิดเหตุได้หนีหายออกจากหมู่บ้านไป กำลังเจ้าหน้าที่ จึงได้สืบสวนหาข่าวและออกติดตาม จนพบตัวขณะนอนพักอยู่ภายในบ้านในเขต อ.น้ำพอง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นในห้องนอนของผู้ต้องหา โดบพบสร้อยคอทองคำหนัก 1บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ แหวนทอง 1 วง สร้อยคอทองคำหนัก 1 เส้น และเงินสด 3,900 บาท อยู่ในกระป๋องกาว 3 เค ซึ่งจากกการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งหมดมาจากบ้านของชาวบ้านที่บ้านหนองเบ็ญ ส่วนเงินสดที่ได้จากการก่อเหตุนั้นได้นำไปซื้อยาเสพติและแจกทิปสาวๆในสถานบันเทิง และก่อนที่จะลงมือก่อเหตุได้ดมสารระเหยจนมึนเมา"
ผกก.สภ.เวฬุวัน กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหาติดยาเสพติดอย่างหนัก ทั้งดมสารระเหย เสพยาบ้า และยาไอซ์ โดยจะนำยาบ้าและยาไอซ์มารวมกันแล้วเสพพร้อมตั้งชื่อว่าเมนูยำรวม และเมื่อไม่มีเงินซึ่งสิ่งเสพติด จึงลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งหมด แต่ยังไม่ได้เอาทรัพย์สินไปขาย เพราะการลงมือครั้งนี้ได้เงินสดจำนวนมาก จึงยังไม่ได้ขาย และเมื่อได้เงินมาก็ไปซื้อยาบ้าและยาไอซ์ จากเพื่อนมาเสพ เมื่อเสพแล้วก็จะขับขี่รถจักรยานยนต์ก็จะเข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงในเมืองขอนแก่น อย่างำรก็ตามภายหลังการควบคุมตัวผู้ต้องหาชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้ง 3 จุดเรียบร้อย จึงทำการควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสน สภ.เวฬุวัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป