“บิ๊กป้อม” ประกาศเป็นนักการเมืองเต็มตัว ประสานพรรครัฐบาลเป็นหนึ่งเดียว พร้อมเป็นที่พึ่งปชช. โวรัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี เลือกตั้งครั้งหน้า พปชร. ได้ส.ส.เยอะกว่าเดิม
เมื่อเวลา 17.50 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดแถลงข่าวครั้งแรกภายหลังการประชุมพรรคครั้งแรก ว่า ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ หลังจากนี้จะทำหน้าที่ และทำงานเพื่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีกันภายในพรรค โดยจะพยายามทำให้ดีที่สุด และหวังอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพรรค เพื่อให้พรรคเกิดความเข้มแข็ง อยู่เป็นหลักชัยให้กับประเทศชาติและประชาชนต่อไป การเข้ามาสู่พรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้ ถือว่าตนได้เป็นนักการเมืองแล้ว ซึ่งสมาชิกพรรคต่างให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โดยหวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรค พปชร.จะได้ส.ส.มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอย่างน้อยต้องได้ส.ส.มากกว่า 116 คนที่ได้ตอนนี้ ท้ายที่สุดก็ขึ้นกับประชาชน อย่างไรก็ตามได้ฝาก
กับส.ส.พปชร. ทุกคน ให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี โดยให้ทำเสมือนว่าสภานั้นเป็นบ้านของส.ส. ที่จะต้องทำทุกอย่าง เพื่อให้เกิดประโยชน์
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าตั้งเป้าจะได้ส.ส.เกินครึ่งเลยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็หวังอย่างนั้น ซึ่งอย่างน้อยต้องได้ส.ส.มากกว่า 116 คนที่ได้ตอนนี้
เมื่อถามว่า ถือว่ายากหรือไม่ เพราะส่วนตัวเป็นทหารมาก่อน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่ายากหรือไม่ เพราะตนเพิ่งเข้ามาพรรคเป็นครั้งแรก แต่ยืนยันว่าพรรค พปชร.ไม่ใช่พรรคทหาร เพราะมีเพียงตนเป็นอดีตนายทหาร ที่สมัครเข้ามา เพราะตนมีความคิดที่จะทำงานช่วยบ้านเมือง หลังจากที่ช่วยมาแล้ว 50 กว่าปี โดยตลอดเวลาที่รับราชการ ได้พยายามทำสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่ประชาชน
เมื่อถามว่า ได้ชักชวนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีการชักชวน เพราะเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจเอง ซึ่งตนไม่รู้ว่า จะเป็นช่วงเวลาใด เพราะไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์
เมื่อถามว่า เลือกตั้งครั้งหน้าจะลงสมัครส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “อีกกว่า 4 ปี ถึงจะเลือกตั้ง เพราะรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ให้ครบ 4 ปี ซึ่งเป็นความตั้งใจไว้ ไม่ใช่จะเลือกตั้งเดือนเม.ย.ปี 63 ”
“จุดประสงค์ที่มาครั้งนี้คือต้องการให้พรรคเป็นหนึ่งเดียว มีความเข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องร่วมมือ ร่วมใจกันอย่างดี เพราะมีหลายพรรคด้วยกัน
และที่มาวันนี้ ก็เพื่อต้องการให้ส.ส.ได้ลงพื้นที่ไปดูแลประชาชน ดูว่าเขาต้องการอะไรแล้วมานำเสนอต่อพรรค โดยต้องเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับพรรค”พล.อ.ประวิตร กล่าว
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีข้อครหาว่าทหารมาเล่นการเมืองมักไม่ประสบความสำเร็จ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนเองก็ไม่ได้มีข้อครหาอะไร แต่ได้ทำงานให้บ้านเมืองมาแล้ว 50 กว่าปี การเข้ามาในพรรคครั้งนี้ยังไม่ทราบว่าจะทำงานได้มากน้อยเพียงใด แต่จะทำงานอย่างเต็มที่ เท่าที่กำลังกาย ใจ และสมอง จะทำได้
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่พรรคเศรษฐกิจใหม่จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้ คุยกับทางพรรคเศรษฐกิจใหม่
ด้านนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค กล่าวเสริมอีกครั้งว่า “ท่านมาเราก็อุ่นใจ”
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าตั้งเป้าจะได้ส.ส.เกินครึ่งเลยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็หวังอย่างนั้น ซึ่งอย่างน้อยต้องได้ส.ส.มากกว่า 116 คนที่ได้ตอนนี้
เมื่อถามว่า ถือว่ายากหรือไม่ เพราะส่วนตัวเป็นทหารมาก่อน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่ายากหรือไม่ เพราะตนเพิ่งเข้ามาพรรคเป็นครั้งแรก แต่ยืนยันว่าพรรค พปชร.ไม่ใช่พรรคทหาร เพราะมีเพียงตนเป็นอดีตนายทหาร ที่สมัครเข้ามา เพราะตนมีความคิดที่จะทำงานช่วยบ้านเมือง หลังจากที่ช่วยมาแล้ว 50 กว่าปี โดยตลอดเวลาที่รับราชการ ได้พยายามทำสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่ประชาชน
เมื่อถามว่า ได้ชักชวนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีการชักชวน เพราะเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจเอง ซึ่งตนไม่รู้ว่า จะเป็นช่วงเวลาใด เพราะไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์
เมื่อถามว่า เลือกตั้งครั้งหน้าจะลงสมัครส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “อีกกว่า 4 ปี ถึงจะเลือกตั้ง เพราะรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ให้ครบ 4 ปี ซึ่งเป็นความตั้งใจไว้ ไม่ใช่จะเลือกตั้งเดือนเม.ย.ปี 63 ”
“จุดประสงค์ที่มาครั้งนี้คือต้องการให้พรรคเป็นหนึ่งเดียว มีความเข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องร่วมมือ ร่วมใจกันอย่างดี เพราะมีหลายพรรคด้วยกัน
และที่มาวันนี้ ก็เพื่อต้องการให้ส.ส.ได้ลงพื้นที่ไปดูแลประชาชน ดูว่าเขาต้องการอะไรแล้วมานำเสนอต่อพรรค โดยต้องเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับพรรค”พล.อ.ประวิตร กล่าว
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีข้อครหาว่าทหารมาเล่นการเมืองมักไม่ประสบความสำเร็จ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนเองก็ไม่ได้มีข้อครหาอะไร แต่ได้ทำงานให้บ้านเมืองมาแล้ว 50 กว่าปี การเข้ามาในพรรคครั้งนี้ยังไม่ทราบว่าจะทำงานได้มากน้อยเพียงใด แต่จะทำงานอย่างเต็มที่ เท่าที่กำลังกาย ใจ และสมอง จะทำได้
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่พรรคเศรษฐกิจใหม่จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้ คุยกับทางพรรคเศรษฐกิจใหม่
ด้านนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค กล่าวเสริมอีกครั้งว่า “ท่านมาเราก็อุ่นใจ”