วันที่ 19 ส.ค. 62 นายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แถลงข่าวจัดงาน“คนข่าวมาขายของ ครั้งที่ 3” ในวันนี้ เป็นงานที่ 7องค์กรวิชาชีพและกลุ่มสื่อมวลชน ประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ชมรมนักข่าวกองปราบปราม กลุ่มนักข่าวบันเทิง ร่วมกับ MBK Group ที่ต้องการช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องสื่อมวลชนที่เดือดร้อน ต้องออกจากงาน อันเนื่องมาจากสาเหตุต่างๆ อาทิ การคืนใบอนุญาตของสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิทัล 7 ช่อง การเปิดโครงการเออรี่รีไทน์ การลดจำนวนพนักงานของทีวีดิจิทัล หนังสือพิมพ์-สื่อสิ่งพิมพ์ มีทั้งที่ทราบนโยบายล่วงหน้าและไม่ทราบล่วงหน้า แต่ยังมีภาระต้้องดูแลค่าใช้จ่ายในครอบครัว ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน จึงได้จัดงานคนข่าวมาขายของครั้งที่ 3 ขึ้นมา เพื่อให้เพื่อนสื่อมวลชนในกลุ่มที่เดือดร้อนนำผลิตภัณฑ์ สินค้าประเภทต่างๆ มาวางจำหน่ายในงานเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-13 กันยายน 2562 ซึ่ง MBK จัดพื้นที่ชั้น 4 ให้ทั้งหมด 70 บูธ ตั้งแต่เวลา 11.00 - 21.00 น. นายมงคล กล่าวอีกว่า สำหรับงานคนข่าวมาขายของลักษณะนี้ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ เคยร่วมกับองค์กรวิชาชีพสื่อ จัดงานมาแล้วรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกเคยจัดในช่วงที่มีวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเมื่อปี พ.ศ. 2540 ครั้งที่ 2 จัดช่วงหลังจากพ้นวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ปี พ.ศ. 2554 เพื่อช่วยเพื่อนสื่อมวลชนที่ถูกน้ำท่วมบ้าน จนต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมบ้านและฟื้ืนฟูชีวิตให้กลับคืนมาดังเดิม "นี่เป็นครั้งที่3 ที่องค์กรวิชาชีพได้รับการสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายสินค้าจากเอกชนอย่าง MBK เพื่อให้คนข่าวตกงานได้นำสินค้าอะไรก็ได้ที่ตัวเองสามารถผลิตเองได้ ทัั้งอาหาร ขนม ของที่ระลึก มาวางจำหน่ายได้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด เป็นการหยิบยื่นน้ำใจให้กันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน รวมทั้งยังจะมีศิลปิน ดารา นักแสดง พิธีกร ผู้ประกาศข่าวฯ ผลัดเปลี่ยนกันมาสร้างสีสัน แจกของรางวัลในวันงานด้วย"นายมงคล กล่าว ทั้งนี้ มีข้อมูลจากสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2562 จนถึงปัจจุบัน มีบุคลากรในอุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนในตำแหน่งต่างๆจากสังกัดสื่อแขนงต่างๆ ทั้งทีวีดิจิทัล หนังสือพิมพ์ ต้องตกงานรวมมากกว่า 800 คน และยังมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมสื่อมวลชนทั่วโลก