วันที่ 19 ส.ค.62 ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยเชียงใหม่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยพร้อมด้วยนายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย,นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร,แกนนำพรรคเพื่อชาติ,นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทยและกรรมการพรรคเพื่อไทย ตลอดจนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นและแกนนำชุมชน ประชาชนได้ร่วมงานเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทยเชียงใหม่ของนายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีตสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)และว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ ของพรรคเพื่อไทยซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 222/2-3 ถ.แยกกองกำลังผาเมือง ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ตรงข้ามสถานีตำรวจช้างเผือก โดยมีกลุ่มพลังมวลชน ประชาชนผู้ให้การสนับสนุนมาร่วมงานอย่างคับคั่ง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในตอนแรกทางพรรคเพื่อไทยไม่ได้คิดว่าจะส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น แต่นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศรี ซึ่งเป็นอดีตส.ว.และเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยมานานแล้ว ถือเป็นคนแรกที่พรรคเพื่อไทยจะใช้เป็นโมเดลในการที่จะส่งคนของพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น หรือนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) เพราะเชียงใหม่ควรจะมีความเจริญก้าวหน้า ทำงานในพื้นที่มากกว่านี้ และเป็นการสมควรแล้วซึ่งอดีตส.ว.ได้ทำงานในพื้นที่มานาน และวันนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งใจเดียวกัน และตอบสังคมให้ชัด “ถึงแม้ว่าขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งนายกอบจ.ได้เมื่อไหร่ อาจจะเป็นม.ค.-ก.พ.ปีหน้า แต่ก็ไม่เป็นรัยแม้กกต.จะยังไม่ประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ แต่ทางพรรคก็พร้อมและเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า ซึ่งพรรคมีนโยบายใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ โดยในวันพรุ่งนี้(20 ส.ค.)จะมีการประกาศนโยบายพรรคเพื่อไทยออกมาอย่างเป็นทางการ โดยพรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายที่นำไปปฏิบัติจริงได้ทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น เพราะเป็นการนำเอาความต้องการของพี่น้องประชาชนมาใช้และดำเนินนโยบายของพรรค ซึ่งนายชูชัยเป็นคนที่พรรคมั่นใจและต้องทำให้เห็นชัดแจ้งว่าจังหวัดเชียงใหม่ควรจะก้าวหน้าไปอย่างไร”หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวและว่า สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 8 ซึ่งส.ส.เชียงใหม่แม้จะไม่ใช่คนของพรรคเพื่อไทย แต่พรรคเพื่อไทยเมื่อโดนขนาดนี้จะส่งใครลงสมัครไม่ได้ แต่ส.ส.เขต 8 ก็ยังเป็นพันธมิตรของพรรคและไว้ใจได้ที่จะช่วยกันทำงาน นอกจากนี้นายสมพงษ์ยังได้กล่าวปราศรัยกับผู้ที่ให้การสนับสนุนที่มาร่วมงานอีกว่า ผู้ที่มาครั้งนี้ขอให้นำไปบอกกล่าวต่อๆ กันไปว่าขอโอกาสให้ชูชัยได้ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนและเชียงใหม่จะเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างแน่นอน “วันนี้มีผู้หลัก ผู้ใหญ่ของพรรคมาจากส่วนกลาง รวมทั้งส.ส.เชียงใหม่และลำพูน ทุกคนตั้งใจและมาให้กำลังใจกับชูชัย ซึ่งจะเป็นตัวยืนสำคัญสำหรับการเมืองระดับท้องถิ่น เพราะทางพรรคเพื่อไทยเองก็กำลังพิจารณาที่จะส่งคนลงสนมัครรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นในจังหวัดอื่นๆด้วย สำหรับนายชูชัย เลิศพงศอดิศร คนนี้ทางพรรคได้ประกาศส่งในนามพรรคเพื่อไทยมาได้ 4 เดือนแล้วและทางพรรคเพื่อไทยสนับสนุนนายชูชัยทุกประการ ดังนั้นขอให้พี่น้องชาวเชียงใหม่ไปบอกต่อๆ กันให้เลือกนายชูชัยมาเป็นนายกอบจ.เชียงใหม่ให้ได้”นายสมพงษ์ กล่าวและว่า สำหรับปัญหาเร่งด่วนที่ทางพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ คือเรื่องปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน เพราะจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองเอกรองจากกรุงเทพฯ แต่ข้อเท็จจริงพี่น้องเกษตรกรยังอ่อนแอ ทางพรรคจะทำให้พี่น้องเกษตรกรสามารถลืมตา อ้าปากได้ ทั้งนี้พรรคเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ นายสมพงษ์ยังกล่าวแกมหยอกด้วยว่า จะเห็นได้ว่านายกอบจ.เชียงใหม่คนปัจจุบันจะเห็นได้ว่าไม่ว่าลงพื้นที่ไหนจะสวมใส่เสื้อนอกตลอดเวลาเพราะเริ่มรู้สึกว่าหนาวมากกว่า นายสมพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตลอดระยะเวลาที่เล่นการเมืองมา 30 กว่าปี แม้ว่าจะห่างเหินไประยะหนึ่ง แต่ตนก็ใกล้ชิดและรับทราบว่าประชาชนมีความต้องการอย่างไร ในฐานะที่คร่ำหวอดในสนามการเมืองรู้ดีว่าพี่น้องประชาชนอยากให้ผู้ที่ขันอาสามาบริหารบ้านเมืองช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งชูชัยเองอยู่ในพื้นที่ เป็นส.ว.ประจำและไม่เคยมีปัญหาใดๆ จึงเชื่อว่าความสำเร็จที่จะคว้าเก้าอี้นายกอบจ.เชียงใหม่มาไม่เกินความพยายามและแรงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนแน่นอน ขณะที่นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ(สว.ก้อง) กล่าวว่า นับตั้งแต่ตนเป็นส.ว.ก็ตั้งใจทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน จนกระทั่งครบวาระและพ้นหน้าที่ก็เตรียมตัวที่จะมาทำงานในระดับท้องถิ่นเพื่อรับใช้ประชาชนถึง 5 ปี จนกระทั่งทางพรรคเพื่อไทยได้ให้โอกาสซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่พรรคที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนสูงเป็นอันดับ 1ของประเทศไทยส่งตนลงสมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่ เพื่อมาช่วยพัฒนาเมืองเชียงใหม่ ผมต้องการระดมความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ทุกคนมามีส่วนร่วมในการให้ข้อเสนอแนะในการทำงานร่วมกัน และตนมีความพร้อมที่จะบริหารงบประมาณ ของทาง อบจ.เชียงใหม่อย่างโปร่งใส โดยเฉพาะผู้ที่จะลงสมัครส.อบจ.ทั้ง 42 เขตนั้นจะมีทีมงานคนรุ่นใหม่ รวมถึงคนที่มีประสบการณ์ มาร่วมทีมคอยช่วยเหลือระดมสติปัญญและความคิดเพื่อพัฒนา จ.เชียงใหม่ให้เจริญในทุกเรื่องตามนโยบายของทางพรรคเพื่อไทย เพื่อที่จะให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นโมเดล ต้นแบบในการพัฒนาทุกระบบในจังหวัด เพื่อให้เป็นจังหวัดนำร่องแก่จังหวัดอื่นต่อไป และตนเองรู้สึกดีใจและภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่พรรคที่เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย มาสนับสนุน ตัวเองให้ลงชิงตำแหน่งนายกอบจ.ในครั้งนี้ และตนพร้อมที่จะพัฒนาเมืองเชียงใหม่ใหม่เจริญขึ้นไปอย่างแน่นอน