ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 ส.ค. นายกิติพงษ์ มากจงดี อายุ 53 ปี ผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.เริงศักดิ์ เพชรเขียว รอง สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและชี้จุดเกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนนี้ยังรู้สึกเจ็บศีรษะอยู่แพทย์ทำการเย็บแผลให้ 3 เข็ม โชคดีที่คมมีดของคู่กรณีไม่ทะลุถึงอกเพราะติดธนบัตรปึกใหญ่ไม่อย่างนั้นคงบาดเจ็บมากกว่านี้ โดยวันเกิดเหตุตนได้ลดกระจกลงเพื่อจะเจรจาและจะเรียกประกันให้ แต่คู่กรณีไม่ฟังใช้หมัดชกตนและใช้มีดแทงเข้ามาที่อก พอตนขยับรถเข้าข้างทางและลงจากรถไปพยายามเจรจาอีกก็ยังทำร้ายไม่หยุด แถมด่าด้วยความเกรี้ยวกราด แล้วก็ยังพยายามเดินไปเดินมาบอกชาวบ้าน ว่า ที่ต้องลงมือทำร้ายตนเพราะตนบีบแตรไล่ และถูกตนชนท้าย คู่กรณีบอกคนในละแวกนั้นว่าตนเป็นฝ่ายผิด หลังจากนั้นมีรถกู้ภัยของ อปพร.มาถึงจุดเกิดเหตุเจ้าตัวจึงรีบขี่ รถ จยย.หลบหนีไป ด้าน พ.ต.อ.อำนาจ หาญชนะ ผกก.สน.แสมดำ เปิดเผยว่า วันนี้เรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำยืนยันลักษณะของอาวุธและการก่อเหตุของคนร้ายว่าเล็งเห็นผลขนาดไหน พยายามฆ่าหรือไม่ เพื่อแจ้งข้อหาต่อไป และให้พนักงานสอบสวนเก็บหลักฐานภาพถ่ายผู้เสียหายในที่เกิดเหตุเอาไว้ วันนี้ได้ตีกรอบให้ฝ่ายสืบสวนแล้วคดีต้องมีความคืบหน้าเนื่องจากพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน รถที่ไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนดูแล้วคนร้ายน่าจะอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ตอนนี้แม้ยังไม่ทราบตัวคนร้าย แต่การไล่กล้องวงจรปิดทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ ประกอบกับการนำภาพถ่ายคนร้ายไปลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ในละแวกดังกล่าวก็น่าจะมีประโยชน์ต่อรูปคดีพอสมควร ขณะที่ พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร ผบก.น.9 เปิดเผยว่า รับรายงานเรื่องคดีดังกล่าวแล้วได้สั่งการให้ตำรวจ สน.แสมดำ เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากพอสมควร เชื่อว่าจะจับคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามตนอยากจะเตือนพี่น้องประชาชนคนไทยผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน อยากให้ใช้ความเอื้ออาทรบนท้องถนนต่อกัน หนักนิดเบาหน่อยขอให้ทำใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดค่อยจา ทุกอย่างจะจบด้วยดี ถ้าเกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นมาแล้วก็จะลำบาก เสียทั้งเวลา ถูกดำเนินคดีเสียอนาคต ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอีกสักระยะยืนยันจะนำตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายให้ได้