TPIPP ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งรายใหญ่ของไทย โชว์ไตรมาส 2กำไรสุทธิ 1,251 ล้านบาท โตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 29.55% ดันผลงานครึ่งปีแรกทำกำไรพุ่ง 2,234 ล้านบาท มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง พร้อมรอลุ้นประกาศผลโครงการโรงไฟฟ้าขยะ กำลังการผลิตรวม 40 เมกะวัตต์ นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,697 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 1,251 ล้านบาท โดยเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2562 ที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 2,514 บาท และกำไรสุทธิที่ 983 บาท โดยมีปัจจัยมาจากการรับรู้รายได้จากปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น หลังเดินเครื่องจักรผลิตกระแสไฟฟ้าครบตามแผนงาน และการเพิ่มหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพหม้อต้มไอน้ำเดิม รวมถึงการที่ภาครัฐปรับขึ้นค่า FT เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2562 ดังกล่าว ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) มีรายได้รวม 5,211 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 3,415 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 52.62% และมีกำไรสุทธิ 2,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 1,719 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 29.92% ส่วนแผนของบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะเร่งดำเนินการผลักดันอัตราการใช้กำลังการผลิตไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมี การเพิ่มหม้อต้มน้ำ 5 ตัว เพื่อเพิ่มไอน้ำให้เพียงพอในช่วงที่ต้องหยุดซ่อมบำรุงหม้อต้มน้ำบางตัว โดยปัจจุบันมีหม้อต้มน้ำเพิ่มเติมแล้ว 2 หม้อ และกำลังเพิ่มเติมอีก 3 หม้อ ซึ่งทั้งหมดจะแล้วเสร็จในกลางปีหน้า ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน TPIPP กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอผลการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะอ่อนนุช และโครงการโรงไฟฟ้าขยะหนองแขม โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในแต่ละโรง 20 เมกะวัตต์ “ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เราได้เดินเครื่องจักรและ COD โรงไฟฟ้า TG8 กำลังการผลิตติดตั้ง 150 เมกะวัตต์ ทำให้มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมเพิ่มขึ้นเป็น 440 เมกะวัตต์ นอกจากนั้นเราได้มีการเพิ่มเติมหม้อต้มไอน้ำซึ่งจะทำให้ปริมาณไอน้ำเพียงพอ ในช่วงที่ต้องหยุดซ่อมบำรุงหม้อต้มไอน้ำบางตัว ทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งตามแผนงานที่วางไว้” นายภัคพล กล่าว