กิจกรรม "คนโคราช เคารพกฎจราจร ไม่เอาด่าน" คึกคัก .. "พ่อใหญ่เกรียงไกร" ร่วมแจมเวทีเสวนา

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 สิงหาคม 2562 นายอัคคชา พรหมสูตร อดีตสมาชิกสภาพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า พร้อมกลุ่มชาวโคราชที่คัดค้านการตั้งด่านตรวจได้ร่วมจัดเวทีเสวนา “ รวมพลคนโคราช เคารพกฎจราจร ไม่เอาด่าน ” ที่อาคารแพทตินั่มพลาซ่าโคราช ริมถนนสุรนารายณ์ เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา พบประชาชนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยทำงานจำนวนกว่า 100 คน ทยอยเดินทางมาลงชื่อแสดงเจตจำนงร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ 51 สถานี สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พิจารณาการตั้งด่านตรวจให้เหมาะสมกับบริบทของท้องถิ่น ซึ่งกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจซบเซา สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการตั้งด่านตรวจที่มากเกินความจำเป็น บรรยากาศคึกคักหลังนายเกรียงไกร ไทยอ่อน ประธานเครือข่ายคัดค้านการตั้งด่านไม่ถูกต้องได้เดินทางมาถึงสถานที่จัดกิจกรรมภาคประชาชน บรรดาแฟนคลับได้พากันไลฟ์สดผ่านโลกโซเชียลและขอถ่ายเซลฟี่กันอย่างต่อเนื่อง จากนั้นได้ร่วมเวทีเสวนาเรื่องการตั้งด่านกับนายอัคคชา ฯ และนายบรรจง เจริญขวัญเมือง นักกฎหมายอิสระ ซึ่งเป็นการชี้แจงให้ความรู้ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่การตั้งด่าน จากนั้นเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นโดยเขียนข้อความลงในกระดาษและนำเสนอในเวที ส่วนใหญ่แชร์ประสบการณ์กรณีพบด่านตรวจตั้งในจุดและช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมและพฤติกรรมลุแก่อำนาจ นายเกรียงไกร ฯ เปิดเผยว่า ได้รวบรวม 5 หมื่นรายชื่อ เสนอเพื่อแก้ไขกฎหมายแต่เป็นไปได้ยากมาก มีเพียงทางเดียวคือประชาชนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ในเวทีข้างถนน วิธีการเมื่อไม่มีความผิด แต่ถูกดำเนินคดีโดยมิชอบ ขอให้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ผู้กระทำการ ซึ่งตนได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 มากที่สุด หากประชาชนผู้เสียภาษีและถือเป็นเจ้าของประเทศไม่กล้าสู้กับความไม่เป็นธรรม ก็ต้องยอมรับกับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านนายอัคคชา ฯ กล่าวว่า การพูดคุยเป็นทางการครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ตกผลึกของการสะท้อนปัญหา ผลกระทบจากด่านตรวจต้องการนำเสนอให้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขอให้เจ้าหน้าที่มีความสุภาพ โดยแสดงตัวขอตรวจค้น,ยกเลิกรางวัลนำจับและการตั้งด่านต้องมีความถูกต้องทุกประการรวมทั้งพิจารณาจุดและช่วงเวลาการตั้งด่านให้เหมาะสม จะทำให้ประชาชนอุ่นใจขึ้น ปัญหาของสาธารณะไม่ใช่ของผู้ใดผู้หนึ่ง การเคลื่อนไหวต่อไปจะรวบรวมข้อมูลที่เป็นปัญหาและความต้องการอย่างรอบด้านและรัดกุม เพื่อร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรี ขอยืนยันกิจกรรมครั้งนี้เป็นภาคการเมืองพลเมืองอย่างแท้จริง มิได้มีพรรคการเมือง และนายทุนรวมทั้งเจ้าของสถานบันเทิงอยู่เบื้องหลังตามที่บางคนเข้าใจ