วันที่17 ส.ค.62 ที่สถานีตำรวจภูธรถลาง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.ถลาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณฐาภพ พงศาปาน รอง ผกก.สส.สภ.ถลาง พ.ต.ต.สุริศักดิ์ หลีวิจิตร สวป.ฯ ปรท. สว.สส. ร.ต.อ.วุฒิชัย อนุเปโฐ รอง สว.สสฯ และ ร.ต.ต.สุคนธ์ แก้วทองสร รอง สว.(สส.ฯ) พร้อมชุดสืบสวน สภ.ถลาง ได้ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมตัวนายไชยโย เหลื่อมใส อายุ 22 ปี ชาว ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และ น.ส.วันเพ็ญ ชูเชย อายุ 23 ปีชาว ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ อ.ถลาง และครอบครองยาเสพติดฯ พร้อมของกลางที่ยึดได้ ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ จำนวน 2 เส้น , สร้อยคอประดับเพชร จำนวน 1 เส้น, กำไลข้อมือทองคำประดับเพชร จำนวน 2 วง , ตุ้มหูทองคำฝังเพชร จำนวน 1 คู่ , จี้ทองทองคำฝังเพชร 3 อัน นาฬิกาข้อมือ จำนวน 17 เรือน , กล้องถ่ายรูป จำนวน 9 เครื่อง , โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง, พระเครื่องจำนวนหลายองค์ ,โน๊ตบุ๊ค จำนวน 3 เครื่อง , กระเป๋าสตางค์ จำนวนหลายใบ เช็กธนาคาร 9 ใบ มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ รวมกว่า 100 รายการ และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ และยาบ้า) จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ถลางได้รับแจ้งเหตุคนร้ายงัดแงะเข้าไปลักทรัพย์สินของผู้เสียหายภายในบ้านพักประชาชนในพื้นที่ อ.ถลาง หลายครั้งติดต่อกัน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ถลาง ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ถลางได้ทำการสืบสวนหาข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และเส้นทางหลบหนีก่อนและหลังเกิดเหตุมาอย่างต่อเนื่อง จนทราบว่าผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าวคือนายไชยโย เหลื่อมใส และ น.ส.วันเพ็ญ ชูเชย ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ห้องแถวเช่าในพื้นที่บ้านยา ม.6 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงได้วางแผนติดตามจับกุมตัว กระทั่งในวันที่ 16 ส.ค.2562 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำโดยพ.ต.ท.ณฐาภพ พงศาปาน รองผกก.สส.สภ.ถลาง ได้เข้าตรวจสอบที่บ้านเช่าที่ผู้ต้องหาทั้งสองพักอาศัยอยู่ จากการตรวจสอบพบยาเสพติดและทรัพย์สินหลายรายการ จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ก่อนนำตัวมาสอบสวน ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งเสื้อผ้าและรองเท้า ที่ใช้ก่อเหตุ ตรงกับหลักฐานจากภาพวงจรปิด และจากการสอบสวน นายไชโยฯ และ น.ส.วันเพ็ญฯ ผู้ต้องหา รับว่าของกลางดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการก่อเหตุลักทรัพย์ และเป็นกลางที่ได้ใช้ในการกระทำความผิด และรับว่าได้ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้วประมาณ 9 ครั้ง โดยทั้งสองจะขับขี่รถจักรยานยนต์วนดูลาดเลาบ้านผู้เสียหายก่อน และจะเลือกดูบ้านที่ล็อคประตูบ้านเป็นหลัก เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่บ้านก็จะลงมืองัดหน้าต่างเข้าไปภายในบ้าน ก่อนที่จะขโมยเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไปเก็บไว้ที่บ้านเช่า โดยจะลงมือก่อเหตุทั้งกลางวันและกลางคืน จากนั้นจะทบทยอยนำทรัพย์สินออกไปขายหรือจำนำเพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายส่วนตัว และซึ้อยาเวเสพติดมาเสพ ส่วนนึงจะนำไปใช้รักษาตัว เนื่องจากน.ส.วันเพ็ญนั้นมีอาการป่วยด้วยโรคซีส โดยเจ้าหน้าที่ได้พาตัวทั้ง 2 คน นำชี้บ้านที่ก่อเหตุ และได้ประสานผู้เสียหายทั้ง 9 รายมาตรวจสอบยืนยันทรัพย์สินของตนเป็นที่เรียบร้อย มีบางรายการที่สูญหายไปเช่นสร้อยคอทองคำ เพราะมีการนำไปจำนำ หรือนำไปแลกเปลี่ยนที่ร้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งติดตามทรัพย์สินของกลางทั้งหมดส่งกลับให้ถึงมือผู้เสียหายต่อไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา“ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ” และ “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นเพื่อคุ้มครองทรัพย์หรือบุคคล โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ” ก่อนนำผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป