เมื่อวันที่ 16 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 ส.ค.62 ที่ผ่านมา ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ “โบว์” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมด้วยทนายความ จากสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ร่วมกันนำหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่เว็บไซต์อนาจาร ที่ลงคลิปตัดต่อทั้งภาพและเสียงประกอบความยาว 1.10 นาที พร้อมทั้งเขียนข้อความทำนองว่า เป็นภาพและเสียงของผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังมีการส่งต่อลิงค์ทางเฟซบุ๊กกันอย่างแพร่หลาย จนเกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง น.ส.ณัฏฐา กล่าวว่า ขณะนี้เวลาผ่านมานานกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว นับตั้งแต่ที่ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้เสียหายจนแล้วเสร็จ แต่จนถึงบัดนี้เว็บไซต์ดังกล่าว ยังเปิดให้ประชาชนเข้าถึงได้อยู่ตามปกติ และยังทยอยเข้าถึงนับหลายหมื่นคน ผู้เสียหายจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก่อนได้รับคำตอบว่าการสั่งบล็อกเว็บไซต์นั้น มีกระบวนการของการทำหนังสือระหว่างบก.ปอท. รวมทั้งกระทรวงที่เกี่ยวข้องและศาล ซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการประมาณ 15 วัน น.ส.ณัฏฐา กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ครั้งแรก ที่ตนถูกกระทำและไม่มีวี่แววว่าจะได้รับความคุ้มครองใดๆอย่างทันท่วงที ทั้งที่ได้มีการรวบรวมหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ทำงานง่ายที่สุด และในวันที่แจ้งความก็ได้พยายามทำอย่างเงียบที่สุด เพื่อให้ผู้กระทำความผิดไม่ไหวตัว อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำงานได้อย่างราบรื่นด้วยความรวดเร็ว เช่นเดียวกับที่เคยเห็นในภารกิจปกป้องรัฐบาลมาก่อน แต่วันนี้ก็เห็นแววว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น เช่นเดียวกับที่เคยร้องทุกข์กับเพจข่าวปลอมหลายเพจในวันที่ 28 มิ.ย.ปี 61 จนถึงวันนี้กว่า 1 ปีที่ผ่านไป ทุกเพจยังอยู่ครบและยังดำเนินการใส่ร้ายป้ายสีนักการเมืองนักกิจกรรมในลักษณะเดิมๆเพิ่มเติมอยู่ทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ “ได้ตั้งข้อสังเกตว่า กรอบเวลา 15 วัน ที่ใช้ในการบล็อคเว็บไซต์คงเป็นกรอบเวลาสำหรับเว็บที่เป็นภัยต่อประชาชนเท่านั้น เพราะในอดีตก็เคยเห็นว่าแม้แต่เว็บของสำนักข่าวต่างประเทศ ที่ถูกเผยแพร่เนื้อหาที่รัฐบาลไม่ต้องการ ก็สามารถถูกสกัดการเข้าถึงในประเทศได้ในเวลาน้อยกว่า 24 ชั่วโมง จึงอยากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติการ จะทำงานอย่างไรเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีองค์กรที่ควรดำรงอยู่ เพื่อปกป้องประชาชนจากอาชญากรรม ในขณะที่ไม่มีนโยบายที่เอื้อต่อการทำงานมารองรับเลย ทั้งนี้อยากให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย” น.ส.ณัฏฐา กล่าว