รวบโจรพ่อ แม่ ลูก ขับจักรยานยนต์ ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์เอาทุกอย่างที่ขวางหน้า สารภาพหน้าตาเฉยก่อเหตุแค่ 3 ครั้ง เป็นผลไม้ลองกอง และเครื่องมือช่าง "สุรชัย" เผยลูกขอร้องแต่พ่อ-แม่ยังทำ ตรวจพบประวัติก่อเหตุโชกโชนและพึ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์มาเมื่อปี 61 เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 16 ส.ค.2562 ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.สส.ภ.4,พล.ต.ต.พรหมณัฎฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายนิกร มณีศรี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/15 ม.14 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ น.ส.มิลธิชา อิทธิเหตุ อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 110 ถ.พหลโยธิน ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีส้มดำ หมายเลขทะเบียน ดกส- 9489 ขอนแก่น หมวกกันน็อคสีส้ม 1 ใบ และเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ที่ บ้านเช่าแห่งหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านศรีฐาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม และข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1โดยผิดกฎหมาย พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ. 4 กล่าวว่า หลังจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ว่ามีคนร้ายเป็นพ่อแม่ลูก ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA WAVE สีดำส้มไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมใส่หมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีส้ม ก่อเหตุลักทรัพย์ในหลายพื้นที่ ขโมยทุกอย่างที่ขวางหน้า ทั้งผลไม้ลองกอง สว่าน และอุปกรณ์ติดตั้งสัญญาณสื่อสาร ซึ่งแต่ละจุดที่ก่อเหตุนั้นมีวงจรปิดบันทึกภาพขณะก่อเหตุเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น สนธิกำลังร่วม บก.สส.ภ.4 ทำการสืสวนสอบสวนจนกระทั่งทราบตัวคนร้ายทั้ง 2 จึงได้ตรวจสอบประวัติพบว่า เป็นผู้ต้องหาที่พ้นโทษในคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่นทั้งคู่ และพึ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์เมื่อเดือนเมษายน 2561 " สำหรับเด็กที่นั่งไปด้วยนั้นเป็นลูกชายวัย 5 ขวบ และ 7 ขวบ และหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านเช่าดังกล่าวก็พบผู้ต้องหาพักอยู่ในห้องเช่าพร้อมลูกชาย จึงแสดงตัวเข้าจับกุมและตรวจค้นในห้องพักพบเสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ก่อเหตุ พบรถจักรยานยนต์และหมวกหมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีส้ม จึงควบคุมตัวไปสอบสวนพร้อมตรวจปัสสาวะ ปรากฏว่าเป็นสีม่วง" ผบช.ภ.4 กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง ทรัพย์สินที่ได้มา นำไปขายเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายและเลี้ยงลูก 2 คน รวมทั้งซื้อยาบ้ามาเสพด้วย ส่วนทรัพย์สินที่ได้มาผู้ต้องหาจะมีการคัดเลือกเอาชิ้นที่มีค่าและขายได้ ชิ้นไหนไม่เอาจะนำไปทิ้งถังขยะ ส่วนรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุนั้นอยู่ระหว่างเช่าซื้อ มีป้ายทะเบียนแต่ถอดทะเบียนออก เพื่อหลบเลี่ยงการถูกจับกุม ส่วนลูกชายทั้ง 2 นั้น ภายหลังผู้ต้องหาถูกจับกุม ญาติได้มารับตัวไปเลี้ยงดูแล้ว และในช่วงของการก่อเหตุนั้น ลูกชายพยายามพูดอ้อนวอนพ่อและแม่ว่าอย่าทำทุกครั้ง แต่ก็ยังลงมือก่อเหตุโดยไม่สนใจความรู้สึกของลูกแต่อย่างใด