เป็นประเด็นร้อนในระบบขนส่งสาธารณะที่เกิดขึ้นกับการที่ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไฟเขียวในการขยายอายุการใช้งานของรถตู้โดยสารสาธารณะจาก 10 ปี เป็น 12 ปี ให้เพิ่มความเร็วจำกัดจาก 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็น 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรถตู้ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสในทันที แต่เปลี่ยนเป็นภาคสมัครใจแม้ว่าสุดท้ายจะออกมาบอกว่าทั้งหมดเป็นภาคสมัครใจก็ตาม ทั้งนี้การออกมาแสดงจุดยื่นในครั้งนี้ มีทั้งผู้เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถตู้โดยสารสาธารณะ ซึ่ง “ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย” หรือ แฟนเพจเฟซบุ๊ก Thailand Accident Research Center ออกมาระบุว่า ได้สร้างความฮือฮาแก่คนที่ทำงานทางด้านความปลอดภัยทางถนน และประชาชนผู้ใช้ “รถตู้”เป็นอย่างมาก เพราะสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุรถตู้ คือ การใช้ความเร็วของผู้ขับขี่ เนื่องมาจากคนขับรถตู้ต้องการวิ่งทำรอบ สามารถทำความเร็วได้เหมือนรถเก๋ง และจะให้เพิ่มความเร็วจำกัดเป็น 120 กม.ต่อชม. ดังนั้นอุบัติเหตุรถตู้ ไม่เกี่ยวกับยานพาหนะ จึงไม่ใช่ข้อสรุปที่ถูกต้อง นอกจากนี้สิ่งที่น่ากลัว คือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถตู้ ภายในรถตู้ที่มักมีการติดตั้งที่นั่งเรียงเป็นแถวๆ ถ้าเป็นรถโดยสารสาธารณะทั่วไป จะมี 4 แถวตอนหลังจากที่นั่งคนขับ ถ้านั่งกันเต็มรถ จะจุคนด้านหลังได้ 12-13 คน แล้วถ้าพูดถึงความเป็นจริงเรื่องเข็มขัดนิรภัย น้อยมากที่ผู้โดยสารจะคาดเข็มขัดนิรภัยขณะนั่งรถตู้ ซึ่งเมื่อรถตู้เกิดคว่ำหรือแค่พลิกขึ้นมา ต้องมีการบาดเจ็บแน่นอน อีกทั้งเมื่อเกิดการชน ถังน้ำมันซึ่งอยู่ค่อนไปทางด้านหน้าจะแตก พอเกิดประกายไฟ ไฟจะเริ่มลุกไหม้จากทางด้านหน้ารถ ลามไปด้านหลัง คนขับอาจจะรอด เพราะหนีได้จากประตูคนขับ แต่หลายรายก็ไม่รอด และมักจะมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ส่วน “รถมินิบัส” มีพื้นที่ภายในรถมากกว่า มีช่องทางเดินตรงกลาง หน้าต่างมีขนาดใหญ่กว่า มีประตูฉุกเฉินทางด้านขวา และส่วนใหญ่มักจะมีประตูฉุกเฉินบนหลังคารถด้วย เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะสามารถหนีออกมาได้เร็วกว่า ท่านลองทดสอบดูก็ได้ว่า เอาผู้โดยสาร 12-13คน ให้นั่งบนรถตู้ กับนั่งบนรถบัส รถประเภทไหนผู้โดยสารจะใช้เวลาหนีลงมาได้เร็วกว่ากัน ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ออกมาระบุว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการรถตู้ได้ส่งตัวแทนมาพูดคุยกับตน และ กรมขนส่งทางบก ซึ่งก็ได้ให้ไปทำเวิร์คช้อป แต่ประเด็นรถไมโครบัส ตนได้ถามกลับไปยังผู้ประกอบการว่าเป็นอย่างไร ซึ่งผู้ประกอบการบอกว่า เรื่องรถไมโครบัส ขอเป็นสมัครใจได้หรือไม่ เพราะราคารถไมโครบัส แพงกว่ารถตู้ และทางผู้ประกอบการได้ตั้งประเด็นเรื่องมาตรการความปลอดภัยในรถไมโครบัสมีอะไรบ้าง ซึ่งทางผู้ประกอบการรถตู้จะได้นำไปปรับปรุง พร้อมกันนี้ ตนเองพิจารณาว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ภาระตกไปอยู่กับพี่น้องประชาชน และได้สั่งให้กรมการขนส่งทางบกนำเรื่องนี้ไปพิจารณา และจะต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนด้วย ขณะนี้ได้เปิดรับฟังความเห็นในช่องทางโซเชียลว่า มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร “ถ้าบังคับให้เปลี่ยนเป็นรถไมโครบัส ทางผู้ประกอบการเองบอกว่ามีผลกระทบเรื่องการเงินที่จะต้องไปจ่ายค่าซื้อรถสูงกว่า ราคารถตู้ 1 เท่าตัว ดังนั้น ถ้าผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าจัดซื้อรถในราคาที่แพงขึ้นกว่าเดิม แล้วค่าโดยสารในอนาคตจะเป็นอย่างไร”รมว.คมนาคมกล่าว ขณะที่ “คณะทำงานพรรคภูมิใจไทย ประจำกระทรวงคมนาคม” กล่าวว่า รัฐมนตรีได้พิจารณาสภาพความเป็นจริงของผู้เกี่ยวข้องทุกมิติ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนที่โดยสารรถสาธารณะเป็นเป้าหมายหลัก พร้อมทั้งยังปิดช่องมิให้บุคคลใดหรือกลุ่มใด ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนรถตู้ไปเป็นรถไมโครบัส “เนื่องจากทราบว่ามีผู้วางแผนนำเข้ารถไมโครบัสจากจีน เข้ามาขายแทนการใช้รถตู้ จนเสียประโยชน์ จากสิ่งที่รมว.คมนาคมระบุว่าไม่มีการบังคับให้เปลี่ยนรถตู้เป็นไมโครบัส แต่ให้สิทธิผู้ประกอบการเลือก ว่าจะใช้รถตู้หรือไมโครบัสก็ได้ ซึ่งทราบว่าการสั่งต่อรถไว้แล้ว มากกว่า 10,000 คัน ซึ่งหากมีการบังคับให้เปลี่ยนรถตู้เป็นไมโครบัส ทั้งหมด จะเสียเงินออกนอกประเทศ มากกว่า 20,000 ล้านบาท ที่น่าจะกระทบภาวะเศรษฐกิจไทยตอนนี้” หากมีการบังคับให้ปรับเปลี่ยนจากรถตู้เป็นไมโครบัสทั้งหมด จะทำให้เกิดปัญหาไม่มีรถให้บริการประชาชน เพราะผู้ประกอบการไม่มีกำลังซื้อรถไมโครบัสมาให้บริการ เนื่องมีราคาสูงกว่ารถตู้ 1 เท่าตัวจากรถตู้ 1 ล้านบาทเศษเป็น 2 ล้านบาทเศษ ซึ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ผู้ประกอบการไม่มีกำลังซื้อรถไมโครบัส และหากมีต้นทุนรถเพิ่ม ก็จะกระทบกับการบริการประชาชนทั้งราคาค่าโดยสารที่แพงขึ้น และรถที่ไม่เพียงพ อย่างไรก็ตามจากการสำรวจความเห็นของประชาชนที่ใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ ส่วนใหญ่เห็นใจผู้ประกอบการรถตู้ และรับได้หากต้องยืดอายุรถตู้ แต่การดูแลสภาพรถต้องได้มาตรฐาน และดูแลพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับรถที่ควรจัดให้มีการอบรม ไม่ขับรถปาดไปมาเหมือนในปัจจุบัน แต่หากเลือกได้อยากให้ปรับเป็นไมโครบัสเนื่องจากตัวรถกว้างขวาง มีความสะดวกสบาย และมีความปลอดภัยที่มากกว่า จึงเป็นการวัดใจคนที่ชื่อ“ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”อีกครั้ง จะยื่นกระต่ายขาเดียวเดินหน้านโยบายรถตู้สาธารณะต่อไป หรือ “หยุด” ทบทวนอีกครั้ง งานนี้มีได้ลุ้นกันทั่วหน้า!