หลังหลายหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือสาวขอนแก่น ใช้เข็มขัดรัดคอลูกชายหวังฆ่าตัวตาย ประชดสามีชาวรัสเซียที่ไม่ดูแล โดยขณะที่กำลังเข้าให้การช่วยเหลือ เจ้าตัวเครียดจัดใช้มีดจ่อคอเพื่อหวังจะฆ่าตัวตายจริง เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกประฌามจากเหตุดังกล่าว ขณะที่ตำรวจและหมอ ต้องเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมก่อนฉีดยาสลบนำตัวส่ง รพ.จิตเวช เพื่อเข้ารับการบำบัด
จากกรณีที่ น.ส.สุภาพร ปราบอรินทร์ อายุ 41 ปี ที่ซึ่งได้ใช้เข็มขัดรัดคอ ด.ช.ธนชิต ปราบปรินทร์ หรือน้องอังเดร อายุ 1 ขวบ 7 เดือน เพื่อหวังจะฆ่าลูกชายและฆ่าตัวเองตายตามเพื่อประชดสามีชาวรัสเซีย พร้อมทั้งมีการอัดคลิปวีดีโอและไลฟ์สด เหตุเกิดภายในบ้านพักเลจที่ 86 ม.3 บ.หนองแห้ว ต.วังสวาบ อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ก่อนที่หลายหน่วยงานจะเข้าคลี่คลายสถานการณ์และช่วยเหลือเด็กไว้ได้อย่างปลอดภัย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ส.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมแพทยื์ พยาบาล จาก รพ.ภูผาม่าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุข อ.ภูผาม่าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูผาม่าน ได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือ และพูดคุยเพื่อประเมินสภาพจิตใจของ น.ส.สุภาพร ผู้เป็นแม่ที่ก่อเหตุดังกล่าวอีกครั้ง ว่าควรได้รับการรักษาด้วยวิธีใด ซึ่งในช่วงที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น อยู่ๆ น.ส.สุภาพร หรือ เตือน ได้เกิดอาการคุ้มคลั่ง ซึ่งคาดว่าจะเกิดจากความเครียดทั้งในเรื่องที่เกิดขึ้น และที่มีคนมาดูเยอะ โดย น.ส.เตือนได้วิ่งออกจากบ้านที่ตนเองอาศัย และวิ่งเข้าไปในบ้านญาติที่อยู่ติดกันเพื่อจะเอามีดมาฆ่าตัวตาย
โดยในช่วงของการชุลมุนนั้นญาติได้เข้าห้ามและบอกว่าทุกคนจะช่วยไม่ได้มาซ้ำเติมหรือทำร้าย แต่ น.ส.เตือนไม่ฟัง วิ่งกลับเข้าบ้านตัวเองคว้ามีดมาจ่อที่คอ ซึ่งในช่วงนี้ทางเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือไม่ให้ทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความเครียดหนักขึ้นไปอีก ก่อนที่ทางแพทย์โรงพยาบาลภูผาม่าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะช่วยกันหว่านล้อม พูดเกลี่ยกล่อมจนเจ้าตัวยอมวางมีด และรับฟังเจ้าหน้าที่พูด ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะฉีดยาระงับภาวะความเครียดของ น.ส.เตือน หามใส่เปลพยาบาลนำตัวส่งต่อโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ทันที ซึ่งตลอดที่ทางเจ้าหน้าที่ช่วยกันนำขึ้นรถพยาบาลเพื่อส่งต่อนั้น น.ส.เตือนร้องตะโกนอยู่ตลอดว่าเอาลูกกูมาอยุ่ตลอดเวลา
ซึ่งจากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ที่ได้พูดคุยกับ น.ส.เตือนทราบว่า น.ส.เตือนมีความเครียดสะสมหลายอย่างทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โมโหที่ถูกสังคมรุมประณามว่าชั่ว ว่าไม่ดี พร้อมด่าทอ ทั้งที่ไม่รู้ความจริงว่าที่ตัวเองทำไปเพราะประชดสามีไม่ยอมส่งเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ปล่อยให้ตัวเองหาเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ก่อนจะควบคุมสติไม่อยู่เกิดอาการดังกล่าวขึ้น และในส่วนของน้องอังเดร เด็กชายวัย 1 ขวบ 7 เดือน ทางเจ้าหน้าที่ได้พาไปหาตา ยาย และทำความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตา ยาย ก็ทราบดี และรับปากว่าจะเลี้ยงดูน้อง อังเดร ในระหว่างที่ นางสาวเตือนเข้ารับการช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ส.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมแพทยื์ พยาบาล จาก รพ.ภูผาม่าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุข อ.ภูผาม่าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูผาม่าน ได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือ และพูดคุยเพื่อประเมินสภาพจิตใจของ น.ส.สุภาพร ผู้เป็นแม่ที่ก่อเหตุดังกล่าวอีกครั้ง ว่าควรได้รับการรักษาด้วยวิธีใด ซึ่งในช่วงที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น อยู่ๆ น.ส.สุภาพร หรือ เตือน ได้เกิดอาการคุ้มคลั่ง ซึ่งคาดว่าจะเกิดจากความเครียดทั้งในเรื่องที่เกิดขึ้น และที่มีคนมาดูเยอะ โดย น.ส.เตือนได้วิ่งออกจากบ้านที่ตนเองอาศัย และวิ่งเข้าไปในบ้านญาติที่อยู่ติดกันเพื่อจะเอามีดมาฆ่าตัวตาย
โดยในช่วงของการชุลมุนนั้นญาติได้เข้าห้ามและบอกว่าทุกคนจะช่วยไม่ได้มาซ้ำเติมหรือทำร้าย แต่ น.ส.เตือนไม่ฟัง วิ่งกลับเข้าบ้านตัวเองคว้ามีดมาจ่อที่คอ ซึ่งในช่วงนี้ทางเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือไม่ให้ทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความเครียดหนักขึ้นไปอีก ก่อนที่ทางแพทย์โรงพยาบาลภูผาม่าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะช่วยกันหว่านล้อม พูดเกลี่ยกล่อมจนเจ้าตัวยอมวางมีด และรับฟังเจ้าหน้าที่พูด ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะฉีดยาระงับภาวะความเครียดของ น.ส.เตือน หามใส่เปลพยาบาลนำตัวส่งต่อโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ทันที ซึ่งตลอดที่ทางเจ้าหน้าที่ช่วยกันนำขึ้นรถพยาบาลเพื่อส่งต่อนั้น น.ส.เตือนร้องตะโกนอยู่ตลอดว่าเอาลูกกูมาอยุ่ตลอดเวลา
ซึ่งจากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ที่ได้พูดคุยกับ น.ส.เตือนทราบว่า น.ส.เตือนมีความเครียดสะสมหลายอย่างทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โมโหที่ถูกสังคมรุมประณามว่าชั่ว ว่าไม่ดี พร้อมด่าทอ ทั้งที่ไม่รู้ความจริงว่าที่ตัวเองทำไปเพราะประชดสามีไม่ยอมส่งเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ปล่อยให้ตัวเองหาเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ก่อนจะควบคุมสติไม่อยู่เกิดอาการดังกล่าวขึ้น และในส่วนของน้องอังเดร เด็กชายวัย 1 ขวบ 7 เดือน ทางเจ้าหน้าที่ได้พาไปหาตา ยาย และทำความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตา ยาย ก็ทราบดี และรับปากว่าจะเลี้ยงดูน้อง อังเดร ในระหว่างที่ นางสาวเตือนเข้ารับการช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่