UPA ส่งสัญญาณไตรมาส 2/62 กำไร 5.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122.23 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน 26.53 ล้านบาท รับปัจจัยหนุนจากโครงการโซลาร์สหกรณ์การเกษตรทั้ง 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 7.95 เมกะวัตต์ รับรู้รายได้เต็มมือ ระบุครึ่งปีหลังสดใส หลังโครงการน้ำประปาแสนดินใน สปป.ลาว มูลค่า 80 กว่าล้านบาทชัด เตรียมเซ็นสัญญาซื้อขายหุ้นเดือนก.ย.นี้ รับรู้รายได้สะสมพอร์ต พร้อมขยายการลงทุนเพิ่ม CLMVT สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน นายวิชญ์ สุวรรณศรี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน)หรือ UPA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/62 มีกำไรรวม 5.90 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 26.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 122.23% ทั้งนี้การเติบโตดังกล่าว เนื่องจากการรับรู้รายได้หลักจากโครงการโซลาร์สหกรณ์การเกษตรทั้ง 3 โครงการประกอบด้วย โครงการสหกรณ์ผู้ผลิตและผู้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ อ.กระแสสินธุ์,โครงการสหกรณ์การเกษตรวิเชียรบุรี และโครงการสหกรณ์การเกษตรกะทูน กำลังการผลิตรวม 7.95 เมกะวัตต์ ซึ่งได้ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่สามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้นสนับสนุนการเติบโต “สถานการณ์ทุกอย่างตอนนี้ดีขึ้น เราพยายามปรับตัวและเพิ่มกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ เพื่อทำให้ผลประกอบการดีขึ้น ในครึ่งแรกปีนี้ปัจจัยหลักที่สนับสนุนคือโครงการโซลาร์สหกรณ์การเกษตรทั้ง 3 โครงการ ส่วนที่เหลือปีนี้งานในมือที่มีจะมีความชัดเจน โครงการน้ำประปาแสนดินใน สปป.ลาว มูลค่า 80 กว่าล้านบาทจะเซ็นสัญญาซื้อขายหุ้นอย่างเป็นทางการในเดือนก.ย.นี้ โดยการเข้าซื้อหุ้นจำนวน 2,160,300 หุ้น หรือคิดเป็น 30% ของจํานวนหุ้นทั้งหมด เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วสามารถรับรู้รายได้ทันที รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าที่เมียนมา 200 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของรายได้ในอนาคต” โดยช่วงที่ผ่านมา UPA มองหาโอกาสในการลงทุน และขยายการลงทุนด้านลังงานทางเลือกใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดในต่างประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMVT ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาดีล M&A โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์) 2-3 โครงการ คาดจะเห็น 1 ในโครงการโซลาร์ฯกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ในประเทศเวียดนามลักษณะการร่วมทุน ขณะที่ในประเทศอยู่ระหว่างเจรจาใน 1-2 โครงการ ซึ่งเป็นลักษณะการเข้าซื้อกิจการ และจะสนับสนุนการเติบโต เสริมสร้างความแข็งแกร่ง และการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจในอนาคต