บมจ. ฐิติกรครึ่งปีแรกกำไร 230.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% ส่วนของรายได้เพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเดียวกัน เป็นอัตราเติบโตที่ดีกว่าตลาดที่มีการหดตัวลง 4.3% ในขณะที่ลูกหนี้เช่าซื้อต่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง 26.0% หรือ 232.0 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนลูกหนี้จากตลาดต่างประเทศ 13.7% ของลูกหนี้ในพอร์ทรวม ยืนยันเดินหน้าขยายสาขาต่างประเทศต่อเนื่อง พร้อมเตรียมเดินเครื่อง Micro Finance ในเมียนมาภายในไตรมาส 3 นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมติงบการเงินสำหรับรอบบัญชีสิ้นสุด 30/6/2562 โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 1,942.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% ในขณะที่รายจ่ายอยู่ที่ 1,710.3 ล้านบาท ลดลง 8.3% ในขณะที่ลูกหนี้เช่าซื้อจากในประเทศลดลง 9.9% แต่ลูกหนี้เช่าซื้อต่างประเทศเติบโต 26.0% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกัน ในช่วงครึ่งปีแรกส่งผลให้ลูกหนี้เช่าซื้อรวมลดลง 6.7% เนื่องจาก TK มีนโยบายเร่งตัดหนี้สูญลูกหนี้ที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้งมีนโยบายเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อในประเทศตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2561 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ลูกหนี้เช่าซื้อจักรยานยนต์ในต่างประเทศเพิ่มสัดส่วนที่ 13.7% หรือ 1,122.0 ล้านบาท โดยบริษัทฯ กำลังเร่งขยายตลาดในตลาดต่างประเทศเพิ่มทั้งลูกหนี้เช่าซื้อและรายได้ ด้วยการเพิ่มสาขารวม 9 สาขา คือเพิ่มอีก 6 สาขาในกัมพูชา เพื่อให้ครบ 12 สาขา และเพิ่มอีก 3 สาขาใน สปป. ลาว รวมเป็น 6 สาขา นอกจากนี้ TK ได้เดินหน้าการประกอบกิจการ Micro Finance ในเมียนมาภายใต้ชื่อ บริษัท Mingalaba Thitikorn Microfinance จำกัด คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในไตรมาส 3 ปี 2562 “ผลประกอบการภาพรวมในครึ่งปีแรกของปีนี้มีการทรงตัวของรายได้ ซึ่งมีสาเหตุหลักการหดตัวของจำนวนลูกหนี้เช่าชื้อตามตลาดรถจักรยานยนต์ ประกอบกับการที่บริษัทฯ เริ่มเน้นเรื่องของความเข้มงวดในขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อ และเร่งตัดหนี้สูญลูกหนี้ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่ส่วนของลูกหนี้เช่าซื้อจักรยานยนต์ในต่างประเทศจากกัมพูชา และ สปป. ลาว ณ ไตรมาส 2 ของปีนี้เป็น 13.7% ของจำนวนลูกหนี้เช่าซื้อรวมของบริษัทฯ ทั้งนี้ TK กำลังเร่งขยายธุรกิจเพิ่มเติม ตามแผนที่จะเพิ่มมีสัดส่วนลูกหนี้จากการดำเนินธุรกิจจากต่างประเทศ โดยภายในสิ้นปี 2562 บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนลูกหนี้จากต่างประเทศอย่างน้อย 20% ของลูกหนี้เช่าซื้อทั้งหมด” นางสาวปฐมา กล่าว ทางด้านนายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK กล่าวเพิ่มเติมว่าตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศ ช่วงครึ่งปีแรกมียอดขาย 894,148 คัน ลดลง 4.3% โดยในช่วง 6 เดือนแรก มียอดขายสูงกว่าในช่วงเดียวกันเพียง 1 เดือน ในขณะที่ตลาดรถยนต์ในประเทศในช่วงครึ่งปีแรกมียอดขาย 523,770 คัน เพิ่มขึ้น 7.1% โดยในช่วง 6 เดือนแรกมีเพียง 1 เดือนที่ยอดขายรายเดือนน้อยกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศลดลง 10.0% และลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ลดลง 15.7% ในขณะที่ลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 26.0% ด้านผลประกอบการของ TK ครึ่งปีแรกของปี 2562 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 1.0% จาก 1,923.5 ล้านบาทในปี 2561 เป็น 1,942.2 ล้านบาทในปี 2562 ในขณะที่ผลประกอบการโดยรวมนั้นยังคงสามารถทำกำไรได้ 230.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หากพิจารณาผลประกอบการจากกิจการในต่างประเทศของ TK ในครึ่งปีแรก พบรายได้เติบโต 109.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการเร่งเดินหน้าเปิดสาขาเพิ่มทั้งในกัมพูชา และ สปป.ลาว “TK เน้นปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นตั้งแต่ปลายปีก่อนจนถึงปัจจุบัน และเร่งตัดหนี้สูญ เพื่อควบคุมคุณภาพของลูกหนี้ภายในประเทศที่มีการแข่งขันดอกเบี้ยสูง ส่งผลให้ลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศลดลง เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศโดยรวมมีสัญญาณที่ภาคธุรกิจต้องจับตามองและเตรียมตั้งรับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ครึ่งปีหลังคาดการณ์ตลาดในประเทศจะชะลอตัวจากภัยแล้ง ภาคส่งออกหดตัวจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ส่งผลให้การเติบโตของ GDP ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งราคาพืชผลการเกษตรและผลผลิตลดลงต่อเนื่อง ภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตไม่มาก” นายประพลกล่าว แม้ว่าผลประกอบการในประเทศไทยจะเติบโตแบบหดตัว แต่ผลประกอบการในต่างประเทศของ TK ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว โดยในปีนี้ TK ได้เดินหน้าการประกอบกิจการ Micro Finance ในเมียนมาภายใต้ชื่อบริษัท Mingalaba Thitikorn Microfinance จำกัด ขณะนี้ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการแล้ว จะเริ่มทำธุรกรรมต้นเดือน กันยายน 2562 ในขณะเดียวกัน TK ได้เปิดสาขาเพิ่มในราชอาณาจักรกัมพูชา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 6 สาขา จะมีการเปิดเพิ่มอีก 6 สาขาในปีนี้ ส่วนที่ สปป. ลาว ปัจจุบันมีอยู่ 3 สาขา จะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขาในปีนี้ มั่นใจว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% อนึ่ง ลูกหนี้เช่าซื้อรวม ณ 30/6/62 อยู่ที่ 8,603.0 ล้านบาท ลดลงจาก 9,224.0 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2561 หรือลดลง 66.7% โดยมียอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ลดลง 6.2% เมื่อเทียบกับสินปีที่ผ่านมา ในขณะที่ลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ลดลง 15.7% จากสิ้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่จะไม่แข่งขันด้านราคา แต่เน้นที่คุณภาพของลูกหนี้ ในส่วนของคุณภาพลูกหนี้ในช่วงครึ่งปีแรกทรงตัว โดยลูกหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือนอยู่ที่ 4.6% ส่วนสำรองลูกหนี้สูงถึง 633.0 ล้านหรือ 6.9% ของลูกหนี้ทั้งหมด TK ได้เริ่มตั้ง General Reserve 1.0% ของลูกหนี้ทั้งหมดตั้งแต่ปี 2561 ส่งผลให้ Coverage Raito สูงถึง 149.0 % โดย Tris Rating ล่าสุดยังคงให้ Credit Rating ที่ A- (Stable) ติดต่อกันเป็นปีที่ 10 ตั้งแต่ปี 2010 ทั้งนี้ บริษัทพร้อมที่จะขยายตัวในประเทศ เมื่อสถานการณ์อำนวยทันที นายประพลกล่าวทิ้งท้าย