เมื่อวันที่ 13 ส.ค.  ที่พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย  อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ นายชัยเกษม นิติสิริ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายโภคิน พลกุล นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายวัฒนา เมืองสุข นายสามารถ แก้วมีชัย และ น.อ.อนุดษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โดยวาระการประชุมประกอบมีการพูดถึงกรณีคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคนอื่นในรัฐบาล กรณีการแถลงนโยบายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยไม่ชี้แจงจำนวนเงิน และที่มาของรายได้ กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่สมบูรณ์ การเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และรายงานการดำเนินการขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยที่ประชุมให้ความสำคัญกับการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งดำเนินการร่วมกันระหว่าง 7 พรรคฝ่ายค้าน  คุณหญิงสุดารัตน์ แถลงภายหลังการประชุมว่า การติดตามการแก้ไขปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนฐานราก เช่น เกษตรกร ฯลฯ ซึ่งเราใช้แนวทางสภาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน บวกกับการใช้ยุทธศาสตร์สัญจร ทั้งนี้เรามองว่าต้องนำเม็ดเงินออกไปสู่ประชาชนโดยเร็ว ไม่เกินเดือนส.ค.นี้ ซึ่งตามมติครม. จำนวนเม็ดเงินนั้นน้อยเกินไป เราจึงขอเสนอให้ชดเชยเป็นขั้นบันได เราขอให้รัฐบาลใช้เงินงบประมาณแก้ไขปัญหาโดยด่วน ไม่เช่นนั้นเราจะต้องใช้กระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ทั้งนี้ การทำงานจะสมบูรณ์ไม่ได้ เราจึงเป็นห่วงเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณที่ยังไม่ครบถ้วน ขอให้นายกฯได้รับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองทำไม้ถูกต้องครบถ้วนทั้งการถวายสัตย์ฯ และการแถลงนโยบาย ซึ่งถ้าเริ่มต้นมาก็ขัดรัฐธรรมนูญแล้ว การดำเนินการต่อๆไปของรัฐบาลก็ไม่สมบูรณ์ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหยุมหยิม แต่เป็นเรื่องขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราจะทำอะไรที่ขัดกับรัฐธรรมนูญไม่ได้  “เราปล่อยให้รัฐบาลทำงานมาเดือนกว่าแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคำตอบใดๆ เราไม่ได้มีประสงค์จะสร้างความยุ่งยากลำบากให้กับรัฐบาล หรือประชาชนเลย แต่ไม่อยากปล่อยให้สิ่งที่ผิด ผิดต่อไปอีก เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนดำเนินต่อไปได้ ไม่ใช่ในอนาคตมีใครมาฟ้องก็ต้องยกเลิกไป แบบนี้กระทบกับประชาชน โดยพรรคเพื่อไทยจะเสนอพรรคร่วมฝ่ายค้านให้เปิดอภิปรายตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว ด้านนายโภคิน กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายวันมานี้เริ่มมีความชัดเจน วันนี้คณะกรรมการยุทธศาสตร์เราตกผลึกถึงความสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะส่งผลถึงปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน เราพยายามให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราจะแก้ไขทั้งฉบับ โดยให้มีสสร.ขึ้นมาดำเนินการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใน 240 วัน แล้วนำไปทำประชามติ พรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมดเราจะไปดูว่าจะรณรงค์กันอย่างไร โดยจะขอความร่วมมือจากนักวิชาการ และภาคสังคมจากทั่วประเทศมาร่วมมือกันด้วย อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปยังส.ว.ทุกท่านให้เห็นถึงความสำคัญตรงนี้ และร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย  นายโภคิน กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการถวายสัตย์ฯ นั้น ก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ประเด็นที่เกิดขึ้นนี้เราเห็นตรงกันว่า เมื่อไม่ถูกต้องเป็นหน้าที่ของผู้ที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องไปแก้ไขเสียเพื่อให้ถูกต้อง ซึ่งเราพยายามตั้งกระทู้สดถามเรื่องนี้ และเพื่อให้เกิดความชัดเจนในรัฐธรรมนูญมีมาตรา 152 ให้ส.ส. เข้าชื่อ 1 ใน 10 เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ต้องลงมติ เพื่อซักถามว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้กันอย่างไร