จากกรณีที่มีข่าว “ตัวแทนเจ้าของโครงการก่อสร้างโรงแรมริเวอร์การ์เด้นและผู้รับเหมาแถลงยุติการเยียวยาครอบครัวเด็กนักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญ คอนแวนต์ บางรัก”นั้น ต่อเรื่องนี้ทางโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์-Assumption Convent โดยคณะเซอร์บ้านอัสสัมชัญคอนแวนต์ได้ลงชี้แจงผ่านเฟสบุ๊คเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม เวลา 08:45 น.ใจความระบุว่า “วันที่ 8 ส.ค. 2562 เวลา13.00 น. นายวรพล อุดมโชคปิติ ในฐานะตัวเเทนผู้บริหารบริษัท แบ็งค์ค๊อค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการก่อสร้างโรงแรมริเวอร์การ์เด้น พร้อมตัวแทนผู้รับเหมาที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวยุติการเยียวยาเด็กนักเรียน โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ บางรัก ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ อุบัติเหตุเครนก่อสร้างหัก ซึ่งทำให้แผ่นเหล็กตกใส่หลังคาโรงเรียน เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า ทันทีที่เกิดเหตุ ตนได้ลงพื้นที่ไปสำรวจความเสียหาย พร้อมสำรวจว่าเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บอย่างไรบ้าง และได้สั่งให้ซ่อมแซมหลังคาโรงยิม และบ้านพักบาทหลวงที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งได้มีการจัดหาที่อยู่ใหม่ให้กับบาทหลวง ได้อาศัยเป็นการชั่วคราว ซึ่งการซ่อมแซมส่วนที่ได้รับความเสียหายนั้นเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว อ่านแล้วเกิดความรู้สึกว่าเขาพูดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ในเรื่องการซ่อมแซมหลังคาโรงเรียนของเรา ที่บอกว่า “เสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว” นั้น แสดงว่าเขาไม่เคยมาดูสถานที่จริงเลย เพราะในความเป็นจริง การซ่อมแซมยังไม่เสร็จสิ้น การพ่นสียังไม่เรียบร้อย นั่งร้านก็ยังอยู่เต็มพื้นที่ และที่สำคัญยังไม่มีการแจ้งกับทางโรงเรียนว่างานเสร็จแล้ว และโรงเรียนก็ยังไม่มีการเซ็นรับมอบงานใด ๆ ทั้งนี้เพราะเราต้องให้ทางวิศวกรของเราตรวจสอบก่อน ภาพที่ปรากฎเช่นนี้ บอกได้หรือคะการซ่อมแซมเสร็จสิ้นแล้ว และที่คุณวรพลกล่าวว่า “การเยียวยาเด็กนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดความล่าช้ามีสาเหตุมาจากการที่โรงเรียนไม่ให้ความร่วมมือในการส่งรายชื่อของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงเบอร์ติดต่อผู้ปกครองของเด็กแต่ละคนให้กับตน จนตนเองและทีมงานใช้ความพยายามจนมีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับผู้ปกครอง และช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมด” ที่บอกว่าโรงเรียนไม่ให้ความร่วมมือนั้น ความเป็นจริงคือการให้ชื่อและเบอร์ติดต่อเด็กและผู้ปกครองนั้น ทางโรงเรียนไม่มีสิทธิที่จะทำเช่นนั้นได้ ยิ่งกว่านั้น ทางโรงเรียนได้จัดโอกาสนัดประชุม โดยใช้ห้องประชุมที่ ACC เพื่อให้คุณวรพลได้มาพบผู้ปกครองทั้ง 10 ครอบครัวพร้อมกัน และวันรุ่งขึ้นภายหลังการประชุม มีผู้ปกครองบางท่านได้มาท้วงติงทางโรงเรียนว่า ใครเป็นคนให้เบอร์ติดต่อกับทางคุณวรพล เช่นนี้ก็แปลว่าการได้มาซึ่งเบอร์ติดต่อนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และไม่ใช่ความยินยอมของผู้ปกครอง เราจำเป็นต้องพูดเรื่องจริง และเราจะยืนหยัดที่จะกระทำแต่สิ่งที่ถูกต้องและเป็นจริง การอบรมสั่งสอนเป็นหน้าที่ของเรา โดยเฉพาะเรื่องการพูดความจริงและความรับผิดชอบในคำพูดและการกระทำของตน รวมทั้งการเป็น มโนธรรมของสังคมด้วย #ด้วยรักจากใจ #คณะเซอร์บ้านอัสสัมชัญคอนแวนต์