นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กเรื่อง'ผู้ว่าแบงก์ชาติในอดีตไม่ออกมาช่วยผู้ว่าฯปัจจุบันบ้างหรือ?' ความว่า...
“ผู้ว่าแบงก์ชาติในอดีตไม่ออกมาช่วยผู้ว่าฯ ปัจจุบันบ้างหรือ?” นักวิเคราะห์หลายคนจะเน้นผลเสียถ้าแบงก์ชาติขาดความเป็นอิสระ โดยใช้เหตุการณ์วิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เป็นตัวอย่าง ในข่าว”แนวหน้า” อ.เจิมศักดิ์สรุปเรื่องแบงก์ชาติจำเป็นต้องมีความเป็นอิสระ แต่ที่น่าสนใจมาก คือบทความใน wsj โดยอดีตประธานเฟด 4 คน คือ พอล โวคเกอร์ , อลัน กรีนสแปน , เบน เบอร์แนแเก้ และ เจเนต เยลเลน เราไม่เคยเห็นมาก่อน ที่อดีตประธานถึง 4 คนซึ่งช่วงเวลาทำงานในตำแหน่งรวมกันนานถึง 40 ปี จับมือร่วมกัน ออกมาช่วยประธานเฟดคนปัจจุบัน ในการต่อสู้กับทรัมป์ น่าเสียดาย กรณีของไทย ที่รองนายกฯ ดร.สมคิดเพิ่งประกาศมาตรการที่จะริดรอนความเป็นอิสระของแบงก์ชาตินั้น ยังไม่เห็นมีอดีตผู้ว่าฯ ของไทยออกมาแสดงความเห็นสักคน คงมีแต่ความกล้าหาญของ ดร.ป๋วย ที่เหลือค้างในใจคนอยู่บ้างเท่านั้น “เรา อดีตประธานเฟด ขอยืนยันว่าเฟดจะต้องมีความเป็นอิสระ โดยเน้นประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศเป็นหลัก และไม่เห็นด้วยที่ภาคการเมืองจะกดดันหรือข่มขู่ประธานเฟด” พวกเขาย้ำสิ่งเดียวกับที่ ดร.ประสารเคยเขียนไว้ว่า เฟดไม่ใช่รัฐอิสระ เพราะรัฐบาลเป็นผู้กำหนดกรอบใหญ่ให้แก่เฟด แต่รัฐบาลต้องปล่อยให้เฟดอิสระภายในกรอบ ไม่ใช่เข้ามาบีบให้เฟดทำโน่นทำนี้ ในอดีตนานมาแล้ว ที่รัฐบาลสหรัฐเคยเข้าไปบีบเฟดให้ขึ้นหรือลดดอกเบี้ย เพื่อให้สอดรับกับจังหวะเลือกตั้ง นั้น ข้อมูลหลักฐานที่ปรากฏยืนยันว่า มีผลเสียมากกว่าผลดี พวกเขาย้ำว่า ต้องปล่อยให้เฟดคิดนโยบายตามสภาวะเศรษฐกิจ โดยเอาวิชาการเป็นหลัก มิใช่ให้เป็นไปตามความต้องการของนักการเมือง