วันที่ 10 ส.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณี การจับกุมพ่อค้าขายทุเรียนที่ขับรถกระบะแหกด่านตรวจ แล้วหลบหนีไปชนกับรถคันอื่นได้รับความเสียหาย ว่าได้รับรายงานจาก สภ.โป่งน้ำร้อน จว.จันทบุรี ว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2562 เวลาประมาณ 12.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจร และสกัดกั้นสิ่งของผิดกฎหมายที่บริเวณด่านตรวจเขาเกลือ ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี มี นายปัญจพงศ์ ยุทธวิชัย อายุ 36 ปี ขับขี่รถยนต์ หมายเลขทะเบียน บร – 5261 จันทบุรี และมีนายธวัชชัย ชูเอี่ยม อายุ 31 ปี เป็นผู้โดยสาร ผ่านมาตามเส้นทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้หยุดรถ และเเสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ เเต่ผู้ต้องหาทั้งสองได้เเสดงอาการมีพิรุธคล้ายกับคนติดยาเสพติด และต้องสงสัยว่ามีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ จึงขอทำการตรวจค้น แต่ผู้ขับขี่ได้ใช้ความเร็วรถหลบหนีไปตามเส้นทางจันทบุรี-สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับรถไล่ติดตามไป ระหว่างนั้นผู้ต้องหาได้ขับขี่รถเข้าไปในเขตที่มีประชาชนอาศัยอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งให้ผู้ต้องหาหยุดรถแต่ผู้ต้องหาได้ขับรถจะพุ่งชนเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงสกัดไปที่ล้อรถยนต์ แต่ผู้ต้องหาได้ขับรถนี้ต่อไปอีก เมื่อมาถึงสามแยกที่เกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถชนรถที่จอดติดสัญญาณไฟจราจรอยู่ จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถไล่ติดตามผู้ต้องหาไปทำให้รถของผู้ต้องหาเสียหลักรถตกข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาผู้ต้องหาและนำตัวมาตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดผลปรากฏว่ามีสารเสพติดในร่างกายผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวนั้นต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อทำความจริงให้ปรากฎและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นเกี่ยวการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตรวจค้นจับกุมสิ่งผิดกฎหมายโดยในการปฎิบัติหน้าที่ก็ต้องกระทำการด้วยความระมัดระวัง ยึดหลักยุทธวิธี ความปลอดภัย และไม่ให้กระทบสิทธิของผู้อื่นหรือประชาชน อย่างไรก็ตามเมื่อมีการเฉี่ยวชน ทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย คงต้องรอผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการ และไม่ตัดสิทธิในการเรียกร้องที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมาย นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำมาโดยตลอด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอาชญากรรม ในการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย โดยเน้นการตรวจค้น จับกุม อาวุธปืน อาวุธสงคราม ยาเสพติด บุคคลตามหมายจับ และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เพื่อลดอาชญากรรมและป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธีตำรวจเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด การค้น การจับกุม หมั่นฝึกทบทวนการปฏิบัติงาน ตามยุทธวิธีตำรวจอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความเคยชิน ลดการสูญเสีย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน โดยจะต้องยึดหลักสากล กระทำการตามอำนาจหน้าที่ อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และใช้หลักยุทธวิธีตำรวจควบคู่กันไป