“สุริยะ”ถก “ส.อ.ท.”หาแนวทางเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมไทยร่วมกันในทุกมิติ ด้านเอกชนขอให้ช่วยประสานกรมบัญชีกลางทำหลักเกณฑ์จัดซื้อจัดจ้างใช้สินค้าผลิตในไทยร้อยละ 90 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)ว่า ในการหารือร่วมกับ ส.อ.ท.ทาง ส.อ.ท.ต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรมช่วยผลักดันไปยังกรมบัญชีกลางให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐในส่วนของงานโยธาเช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จัดทำหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างจะต้องใช้สินค้าที่ภาคอุตสาหกรรมไทยผลิตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ทั้งนี้จะได้หารือกับนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เพื่อจะได้กำหนดหลักเกณฑ์เรื่องนี้ชัดเจนต่อไป สำหรับสินค้าบางรายการที่ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาผลิตเป็นสินค้า ที่พบกับการใช้เวลาขั้นตอนตรวจมาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) นาน 2 สัปดาห์ ได้รับพิจารณาที่จะช่วยให้ สมอ.ลดเวลาตรวจสอบสินค้านำเข้ารายการที่นำเข้าบ่อยๆเหลือ 1 สัปดาห์ ส่วนกรณีที่บางประเทศในอาเซียนกีดกันสินค้าส่งออกจากไทย โดยอ้างการตรวจเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคนั้น เรื่องนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะใช้มาตรการลักษณะเดียวกันผ่านมาตรการของ สมอ.มาดำเนินการบ้าง เพราะการกีดกันการค้าลักษณะนี้ทำให้สินค้าที่นักลงทุนผลิตในไทยมีอุปสรรคในการส่งออกไปขาย โดยด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะร่วมมือกับ ส.อ.ท.พัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้แข่งขันได้ในตลาดโลกโดยเร็วทั้งด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐบาล ขณะที่เรื่องสงครามการค้าจีนและสหรัฐฯที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกและกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทยด้วย ได้ร่วมกันจะกำหนดยุทธศาสตร์ความร่วมมือขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม รับมือปัญหาสงครามการค้า ในการหารือเชื่อว่ากลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่มีฐานการผลิตในจีนจะย้ายมาไทยมากขึ้น ซึ่งขณะนี้หลายบริษัทติดต่อเข้ามาแล้ว นอกจากนี้การช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีที่ ส.อ.ท.ต้องการให้ช่วยเหลือจะช่วยทั้งด้านการตลาด เงินทุน และการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะด้านเงินทุนกระทรวงอุตสาหกรรมจะหารือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ช่วยเหลือต่อไป ส่วนการพัฒนาบุคลากรจะช่วยหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการทำ Ease of doing business หรือความยากง่ายในการทำธุรกิจจะช่วยเหลือผู้ประกอบการแก้ไขหลักเกณฑ์ที่ล้าสมัยเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ส.อ.ท.ยังต้องการผลักดันเรื่องเมดอินไทยแลนด์เป็นวาระแห่งชาติ โดยให้การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย และมีการส่งเสริมด้านการพัฒนามาตรฐานสินค้าของคนไทยให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเมื่อวานนี้จากการหารือกับผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ขอให้ ธปท.ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ให้มีความยืดหยุ่นในการพิจารณาสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา หากธนาคารเห็นอุตสาหกรรมใดไม่ดีจะปฏิเสธการให้สินเชื่อ