จากกรณีนายวิโรจน์ สุ่มใหญ่ ประธานคณะกรรมการควบคุมสารเสพติดระหว่างประเทศ (INCB) ตอกฝาโลงปลูกกัญชาเสรีเพื่อนันทนาการทำไม่ได้ ทั้งหากปลูกบ้านละ 6 ต้นเท่ากับป่วยกันทั่งประเทศ ระบุที่ต่างชาติเดินสายโปรโมตกัญชาเสรีเพราะไม่สามารถทำในประเทศตัวเองได้ ด้วยถูกรัฐบาลสั่งห้ามธนาคารทำธุรกรรมด้วย จึงต้องย้ายมาทำในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์สาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก "ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha" ระบุ “เกิดอะไรขึ้นกับการถืออำนาจต่ออธิปไตยของประเทศไทย ข่าวเก่านายวิโรจน์ สุ่มใหญ่ เมื่อปลายปีที่แล้วที่เห็นด้วยกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ และประเทศไทยไม่ได้ทำผิดอนุสัญญาระหว่างประเทศ แต่มาวันนี้ออกข่าวมาว่าทำไมประเทศไทยถึงมา ”ตื่นเต้นการใช้กัญชา” และตนเองถือกฎหมายตามอนุสัญญาระหว่างประเทศอยู่ที่จะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถผลิตและปลูกได้ ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจ ทั้งๆที่ตามอนุสัญญานั้นเอื้ออำนวยให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และอนุสัญญาดังกล่าวจัดกัญชาเป็นบัญชีที่สี่เมื่อใช้ในทางการแพทย์ และINCB ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำการห้ามประเทศใดประเทศหนึ่ง ถ้าทำเพื่อการแพทย์และกระทรวงสาธารณสุขและประเทศนั้นๆเป็นผู้ควบคุมการใช้ และถึงแม้ว่าจะละเมิดออกนอกกรอบก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำการห้ามทันที จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 14 วรรคหนึ่งตามข้อ a ถึง d จึงจะไปถึงวรรคที่สองที่ต้องแจ้งประเทศภาคีอื่นต่างๆ และมีการประชุมที่จะทำการแซงชั่นไม่ให้ส่งมอร์ฟีนมาประเทศไทย แต่บท sanction ตามมาตรา 14 วรรค 2 ก็ไม่ได้เป็นการบังคับรัฐภาคีอื่นๆ ให้ต้องทำตาม เพราะใช้คำว่า "recommend" เท่านั้น  ประเด็นนี้เป็นไปตามหลักอำนาจอธิปไตยของรัฐถือว่าเป็น Jus Cogen ซึ่งชาติต่างๆ ไม่อาจละเมิดอำนาจอธิปไตยกันได้ ก่อนหน้าปี 2522 ประเทศไทยก็มีการใช้พืชกัญชาอยู่ตามบ้านอยู่แล้วจนกระทั่งมีการออกพระราชบัญญัติยาเสพติดและทำให้กัญชาเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย อีกทั้งประเทศไทยไม่สามารถปลูกฝิ่นได้ เลยต้องรับมอร์ฟีนจากต่างประเทศมาใช้”