วันที่ 8 ส.ค.พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม 3, พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ทล, พ.ต.อ.ภาส สิริสุขะ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.พัชญ์กฤชโชค เกษมณีผกก.ตม.จ.ฉะเชิงเทรา และ พ.ต.ท.ชย พานะกิจ รอง ผกก.3 บก.ทท. 1 บช.ทท. แถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้ พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่าตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน 2019 มีบทบาทนําในการพัฒนาและสร้างความร่วมมือของประเทศต่าง ๆ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาค ตามแนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ โดยทำงานประสานกับหน่วยงานตำรวจและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด มีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2562 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้รับการประสานงานเป็นกรณีเร่งด่วนจากประเทศกัมพูชา ว่ามีคนร้ายข้ามชาติก่อเหตุเรียกค่าไถ่ตัดนิ้วเหยื่อในกัมพูชา หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย จึงมอบหมายให้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ตรวจสอบและควบคุมการปฏิบัติติดตามตัวโดยสั่งการ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม 3 กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตม.3 และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว สืบสวนติดตามคนต่างด้าวจำนวน 4 รายเป็นกรณีเร่งด่วน (ขอปกปิดนาม เนื่องจากอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนร่วมกันระหว่าง 3 ประเทศ) จำนวนนี้มีชาวอินโดนีเซีย 2 รายถูกทางการกัมพูชากล่าวหาว่าได้ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมแล้ว ลักพาตัวผู้เสียหายชาวอินโดนีเซียไปเรียกค่าไถ่ พร้อมกับใช้อาวุธมีดตัดนิ้วผู้เสียหาย จากนั้นได้ส่งคลิปวีดีโอไปให้ญาติผู้เสียหายในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเรียกทรัพย์สินเป็นมูลค่าเงินไทยกว่า 3 แสนบาท จากการตรวจสอบข้อมูลเดินทางเข้า–ออกผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก เมื่อเวลา 08.14 น.และกล้องวงจรปิดระหว่างเส้นทางหลบหนี พบว่าทั้ง 4 รายร่วมกันหลบหนีด้วยรถยนต์ตู้สาธารณะแบบเหมา มุ่งหน้า กทม. ทั้งหมดมีลักษณะพิรุธ ลุกลี้ลุกลน และเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ตู้โดยสารอีกคันหนึ่งระหว่างทาง การติดตามครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานงานกับหน่วยงานประเทศกัมพูชาและอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด บูรณาการการทำงานระหว่างตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรในพื้นที่เส้นทางหลบหนี ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจทางหลวง เพื่อเร่งสกัดตรวจสอบตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี พบบุคคลต่างด้าวทั้ง 4 รายในโรงแรมย่านประตูน้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการควบคุมตัว เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และได้ประสานงานกับทางการกัมพูชาและอินโดนีเซีย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย