“จุรินทร์"สั่งพาณิชย์เดินหน้า 10 ภารกิจ เน้นประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิดผ่านโครงการประกันราคา นำร่องสินค้าปาล์ม ย้ำต้องทำก่อนเป็นลำดับแรก ยกระดับรายได้เกษตรกร จากนั้นจะดูแลค่าครองชีพในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง-เร่งรัดส่งออกเพิ่มรายได้
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค.62 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ มอบนโยบายผู้บริหารและหน่วยงานกระทรวงพาณิชย์เป็นครั้งแรก เน้น 10 นโยบายหลักคือ การประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิดคือ ข้าว,ยาง,ปาล์ม,มันสำปะหลัง และข้าวโพด ถือว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เนื่องจากเกษตรกรมีความคาดหวังต่อรัฐบาลสูงว่าจะช่วยยกระดับรายได้
โดยกระทรวงพาณิชย์จะใช้กลไก 3 ประสาน ทั้งภาครัฐ เอกชน เกษตรกร ร่วมตัดสินใจเรื่องราคาและเงื่อนไข เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และจะประชุมกำหนดรายละเอียดประกันรายได้ปาล์มเป็นสินค้าแรก ส่วนยาง ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีการหารือรายละเอียดเพื่อกำหนดแนวทางช่วยเหลือวันที่ 9 ส.ค.นี้ และสินค้าเกษตรอีก 3 ชนิดจะมีพิจารณาตามความเหมาะสม
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรจะเน้นแก้ปัญหาเชิงรุก โดยไม่รอให้เกิดปัญหาและใช้ระบบเกษตรพันธสัญญา เพื่อลดความเสี่ยงด้านตลาดและราคา โดยในส่วนราคายังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า จะเท่ากับราคาที่พรรคประชาธิปัตย์หาเสียงไว้หรือไม่ เพราะต้องหารือกับคณะทำงาน 3 ประสานอีกครั้งก่อน และเมื่อทุกอย่างชัดเจนจะนำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อกำหนดแนวทางการใช้งบประมาณแต่ละโครงการให้เป็นรูปธรรม ซึ่งรัฐบาลเห็นความสำคัญความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรและรอโครงการประกันรายได้ ซึ่งจะดำเนินการทุกเรื่องให้เร็วที่สุด
ขณะเดียวกันยังเน้นดูแลราคาสินค้าและบริการให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย เร่งรัดการส่งออกสินค้าเกษตร โอทอป เสื้อผ้า เครื่องประดับและอื่นๆ ซึ่งมียุทธศาสตร์สำคัญคือ รักษาตลาดเดิมและเปิดตลาดใหม่ และฟื้นตลาดเดิมที่เคยหายไป รวมทั้งเน้นการค้าชายแดน เร่งเจรจาการค้าที่ค้างเช่น RCEP เอฟทีเอไทย-อียู,ไทย- ปากีสถาน,ไทย- ตุรกี และ CPTPP
นอกจากนี้จะเดินหน้าระบบ e- filling ให้มีความง่าย สะดวกรวดเร็วในการจดทะเบียนนิติบุคคล เร่งการจดทะเบียนสิทธิบัตรจีไอเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ จัดโมบายให้ความรู้ด้านการจดทะเบียน การผลักดันธุรกิจยุคใหม่เช่น อี-คอมเมิร์ซ และให้ความสำคัญกับโชห่วย เพราะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยปรับเป็นสมาร์ทโชห่วย หรือโชห่วยนิวลุค ควบคู่กับร้านธงฟ้าที่ดำเนินการอยู่แล้ว โดยกระทรวงจะเป็นพี่เลี่ยงปรับโฉม ส่งเสริมธุรกิจภาคบริการ เช่น ร้านอาหารไทยซีเล็ก สปา ธุรกิจภาพยนต์และอื่นๆ เพื่อให้สามารถเปิดธุรกิจได้ในต่างประเทศ และจะใช้กลไกในการขับเคลื่อน
ทั้งนี้จะประชุมจะหารือร่วมกันทุกฝ่ายอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน ใช้กลไก กรอ.พาณิชย์ ที่จะช่วยกันขับเคลื่อนนโยบาย กลไก 3 ประสานในการตัดสินใจนโยบายด้านการเกษตรจะมีตัวแทนจากภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร รวมทั้งกลไกทูตพาณิชย์มืออาชีพในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆร่วมกัน
