วันที่ 6 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ 9 เสียง ชี้มูลความผิดนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และปัจจุบันเป็นประธานวิปรัฐบาล นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา และพวกทุจริตโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่เขต 2 จ.นครราชสีมา โดยชี้มูลความผิดบุคคลทั้งสิ้น 24 ราย ทั้งนี้ จากการไต่สวนของ ป.ป.ช. พบความเชื่อมโยงการกระทำความผิดระหว่างนักการเมืองและข้าราชการในพื้นที่ โดยนำงบประมาณที่ได้จากการแปรญัตติของ ส.ส.ที่ระบุเป็นค่าก่อสร้างซ่อมแซมอาคารเรียนที่ประสบอุบัติภัย ไปก่อสร้างสนามฟุตซอลแทน ซึ่งเป็นการก่อสร้างโดยไม่จำเป็น จึงสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งให้อัยการสูงสุด นายวรวิทย์ กล่าวว่า มั่นใจในพยานหลักฐาน ส่วนใครจะฟ้องปปช.นั้นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิของแต่ละคน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แถลงที่รัฐสภาว่า ได้ยื่นหนังสือทักท้วงต่อป.ป.ช. หลังจากถูกชี้มูลความผิดคดีดังกล่าว เนื่องจากหลักฐาน ที่ป.ป.ช.นำมาดำเนินคดีกับตนเป็นเพียงใบบัญชีคุมยอดรายการแปรญัตติเพิ่มปี2555 สพฐ.ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทยได้รับงบประมาณ 2,588,420,000 บาท และมีพรรคการเมืองที่ได้รับงบแปรญัตติดังกล่าวด้วยอาทิ พรรคชาติพัฒนา 140 ล้านบาท พรรคประชาธิปัตย์ 925 ล้านบาท พรรคภูมิใจไทย และระบุว่า ตนได้รับงบแปรญัตติดังกล่าว 300 ล้านบาท “เอกสารที่ ป.ป.ช. ใช้ทำเรื่องและตั้งเป็นสำนวนชี้มูลนั้น เป็นเอกสารไร้ที่มา และระบุไม่ได้ว่ามาจากหน่วยงานใด แค่มีชื่อผมไปปรากฎบนเอกสารเท่านั้น ซึ่งการชี้มูลของ ป.ป.ช. ครั้งนี้ ผมยืนยันว่าไม่เคยรับงบแปรญัตติก้อนนั้น ซึ่งผมสงสัยว่า ป.ป.ช.เคยทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี2555 หรือไม่ว่า ได้จัดสรรงบแปรญัตติดังกล่าวให้พรรคการเมืองต่างๆและผมหรือไม่ รวมถึงได้ทำหนังสือไปสอบถามพรรคการเมืองที่มีรายชื่อในเอกสารดังกล่าวหรือยังว่า ได้รับงบแปรญัตติจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาป.ป.ช.เรียกผมไปชี้แจงเพียงแค่ครั้งเดียว” นายวิรัช กล่าว ด้านนายทศพล เพ็งส้ม ทีมทนายความคดีทุจริตสนามฟุตซอลของนายวิรัช กล่าวว่า ทีมกฎหมายเตรียมฟ้องดำเนินคดีเอาผิดกับป.ป.ช.ตามมาตรา 157 ตามประมวลกฎหมายพิจารณาคดีอาญา และมาตรา172 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราบปรามการทุจริต เนื่องจากเห็นว่า หลักฐานเรื่องการแปรญัตติงบที่ป.ป.ช.นำมาใช้เอาผิดนายวิรัชไม่ได้สอบสวนอย่างละเอียดรอบคอบ เป็นเอกสารลอยๆที่ไม่มีใครกล้าเซ็นรับรอง แต่กลับนำมาใช้เอาผิด รวมทั้งไม่เคยไปสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง กมธ.งบประมาณปี2555 หรือพรรคการเมืองต่างๆว่า ได้มีการแปรญัตติงบไปให้หรือได้รับงบแปรญัตติจริงหรือไม่