เมื่อวันที่ 6 ส.ค.62 น.ส.ประภารัตน์ ลาวัณย์ศิริ อายุ 46 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จ.เลย พร้อมผู้เสียอีก 7 ราย เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.รัถย์ศานต์ ประจิตร์ รอง สว.(สอบสวน )กก.3 บก.ป. เพื่อให้ช่วยเร่งติดตามตัว น.ส.นภาศุกร มะระคำ อายุ 36 ปี อดีตผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง (แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ) สาขาห้างสรรพสินค้าโฮมโปร อ.เมืองเลย ในข้อหา ฉ้อโกงเงิน มูลค่าความเสียหายกว่า 76 ล้านบาท
น.ส.ประภารัตน์ กล่าวว่า เมื่อปี 2558 น.ส.นภาศุกร นำกองทุนต่าง ๆ มาเชิญชวน อ้างว่า จะได้ผลตอบ แทน เป็นดอกเบี้ย 2.7 เปอร์เซ็นต์ต่อปี พร้อมนำเอกสารที่มีตราสัญลักษณ์ที่ธนาคาร นำมาให้ผู้เสียหายเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ประกอบทั้งก่อนหน้านี้ธนาคารเชิญชวนให้ร่วมลงทุนกองทุนต่างๆ ของธนาคาร ทำให้หลงเชื่อ เพราะ น.ส นภาศุกร เป็นผู้จัดการธนาคารที่มีใบอนุญาต กลต. (คณะกรรมการกำกับกิจการตลาดหลักทรัพย์) จึงตัดสินใจซื้อกองทุน โซลาริส กองทุน แอทเซทพลัส พร้อมชักชวนญาติพี่น้องให้มาร่วมทยอยลงทุนตั้งแต่ปี 2558-2560 รวมมูลค่า 40 ล้านบาท หลังจากซื้อกองทุน ผู้จัดการสาว ยังออกใบเสร็จของกองทุน แบะใบตราสารของกองทุนที่ซื้อมาให้ ทำให้มั่นใจมาตลอดว่าซื้อกองทุนกับธนาคารจริงๆ
"กระทั่งเมื่อปลายปี 2561 มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อน เพื่อมาดำเนินธุรกิจ จึงติดต่อเพื่อถอนเงินออกมา แต่กลับถูก น.ส.นภาศุกร บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ต่อมาได้ติดต่อสอบถามไปที่ธนาคารดังกล่าวเพื่อเบิกเงินออก แต่พนักงานธนาคารกลับไม่รู้เรื่อง อ้างว่ามีผู้จัดการสาขาคนเดียวที่รู้เรื่อง รวมทั้งไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยว่ามีการซื้อขายจริงหรือไม่ เพราะพนักงานทั่วไปไม่มีรหัสตรวจสอบข้อมูล จะมีผู้จัดการคนเดียวที่ดูข้อมูลได้" น.ส.ประภารัตน์ กล่าว
น.ส.ประภารัตน์ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อติดต่อไปที่ธนาคารสาขาใหญ่ ได้รับการชี้แจงว่าธนาคารไม่เคยได้รับเงินกองทุนจำนวนดังกล่าวจาก น.ส.นภาศุกร ผู้จัดการธนาคาร สาขาเมืองเลย รวมทั้งเมื่อตรวจสอบเอกสารต่างๆ แล้ว พบว่าไม่ใช่เอกสารที่ออกให้จากธนาคาร เพราะใช้ตัวอักษรไม่ตรงกับของธนาคาร จึงรู้ว่าถูกหลอก ก่อนเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเลย กระทั่งพบว่า มีผู้เสียหายหลายรายที่ถูก น.ส.นภาศุกร หลอกในลักษณะเดียว รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 76 ล้านบาท ยังไม่รวมกับผู้เสียหายอีกหลายรายที่ยังไม่มาแจ้งความ
พ.ต.อ บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องสอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.นภาศุกร มะระคำ มีหมายจับ สภ.เมืองเลย 4 หมายจับ มีปลอมแปลงเอกสาร 3 หมายจับ และ ฉ้อโกงอีก 1 หมายจับ ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อติดตัวผู้จัดการสาวรายนี้มาดำเนินคดีแล้ว
"กระทั่งเมื่อปลายปี 2561 มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อน เพื่อมาดำเนินธุรกิจ จึงติดต่อเพื่อถอนเงินออกมา แต่กลับถูก น.ส.นภาศุกร บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ต่อมาได้ติดต่อสอบถามไปที่ธนาคารดังกล่าวเพื่อเบิกเงินออก แต่พนักงานธนาคารกลับไม่รู้เรื่อง อ้างว่ามีผู้จัดการสาขาคนเดียวที่รู้เรื่อง รวมทั้งไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยว่ามีการซื้อขายจริงหรือไม่ เพราะพนักงานทั่วไปไม่มีรหัสตรวจสอบข้อมูล จะมีผู้จัดการคนเดียวที่ดูข้อมูลได้" น.ส.ประภารัตน์ กล่าว
น.ส.ประภารัตน์ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อติดต่อไปที่ธนาคารสาขาใหญ่ ได้รับการชี้แจงว่าธนาคารไม่เคยได้รับเงินกองทุนจำนวนดังกล่าวจาก น.ส.นภาศุกร ผู้จัดการธนาคาร สาขาเมืองเลย รวมทั้งเมื่อตรวจสอบเอกสารต่างๆ แล้ว พบว่าไม่ใช่เอกสารที่ออกให้จากธนาคาร เพราะใช้ตัวอักษรไม่ตรงกับของธนาคาร จึงรู้ว่าถูกหลอก ก่อนเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเลย กระทั่งพบว่า มีผู้เสียหายหลายรายที่ถูก น.ส.นภาศุกร หลอกในลักษณะเดียว รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 76 ล้านบาท ยังไม่รวมกับผู้เสียหายอีกหลายรายที่ยังไม่มาแจ้งความ
พ.ต.อ บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องสอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.นภาศุกร มะระคำ มีหมายจับ สภ.เมืองเลย 4 หมายจับ มีปลอมแปลงเอกสาร 3 หมายจับ และ ฉ้อโกงอีก 1 หมายจับ ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อติดตัวผู้จัดการสาวรายนี้มาดำเนินคดีแล้ว