ตำรวจปราบปรามยาเสพติด รวบผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด 8 คดี ได้ผู้ต้องหา 12 คน พร้อมยึดของกลางยาเสพติด ไอซ์ โคคาอีน กัญชา และกระท่อมได้จำนวนมาก เมื่อวันที่ 5 ส.ค.62พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.แถลงผลงานตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญจำนวน 8 คดี ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 12 คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,280,000 เม็ด /เอ็กซ์ตาซี่ 2,653 เม็ด /โคคาอีน 3,120 เม็ด ไอซ์ 7,560 กรัม เคตามีน จำนวน 5 กิโลกรัม /กัญชา330.72 กิโลกรัม พืชกระท่อม 1.2 กิโลกรัม และ อาวุธปืนเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้พยายามแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งเน้นการปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดโดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้แหล่งชุมชนมีการแพร่ระบาดยาเสพติดและเป็นแหล่งมั่วสุม พล.ต.ท.ชินภัทร ระบุว่า ใน 8 คดีมีคดีที่น่าสนใจคือคดีตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน คือนายกิตติพงศ์ สุขใย นายวัชรพล ฤกษ์โสภา และ นายสุรวุฒิ บางไพร พร้อมยาบ้าจำนวน 1,000,000 เม็ด เคตามีน 1,000 กรัม รถบรรทุก 6 ล้อ รถยนต์และโทรศัพท์ 4 เครื่อง โดยก่อนเกิดเหตุตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งว่า มีกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดเป็นกลุ่มที่เคยถูกจับกุมและเพิ่งโทษคดียาเสพติดออกมา ที่ยังมีพฤติการณ์เคลื่อนไหวด้านยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มคนดังกล่าวจะมีการลำเลียงยาเสพติด จากภาคเหนือสู่พื้นที่ชั้นใน และกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมกระจายไปยังแหล่งชุมชน โดยตำรวจได้ติดตามรถยนต์ส่วนบุคคลคันหนึ่ง ที่สืบทราบว่าเป็นรถคันที่นำยาเสพติดไปส่งมอบในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนมาพบว่าจอดอยู่ในบ้านพักแห่งหนึ่งใน อำเภอบางบัวทอง โดยมีรถบรรทุก 6 ล้อ จอดอยู่ในบ้าน ตำรวจจึงเฝ้าดูพฤติการณ์จนพบว่า มีรถยนต์อีกคันขับเข้ามาก่อนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้เดินมาที่รถบรรทุกพร้อมช่วยกันเปิดแผ่นพื้นท้ายรถบรรทุก และได้หยิบสิ่งของเป็นก้อนๆใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ด้วยท่าทีรีบร้อน ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมพบว่าเป็นยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในช่องลับส่วนท้ายรถบรรทุก จำนวน 543 มัด ประมาณ 1 ล้านเม็ด โดยการสืบสวนยังพบว่าบ้านพักที่ตำรวจเข้าจับกุมเป็นบ้านพ่อผู้ต้องหา ที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำคดียาเสพติด ส่วนอีกหนึ่งคดีตำรวจสามารถจับกุมนายอภิวัธน์ จำรัสศรี และนายจิรายุส วงษ์แพทย์ พร้อมของกลางยาเสพติดประเภทกัญชาและพืชกระท่อมรวมทั้งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนต่างๆภายในบ้านพักย่านลาดพร้าววังหิน 28 โดยเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตการณ์ว่าบ้านหลังดังกล่าวมีวัยรุ่นเข้า-ออก กว่า 20 คน จึงได้เข้าจับกุมเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมาซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำงานเป็นพนักงานนำจ่ายไปรษณีย์โดยยาเสพติดมีไว้เพื่อเสพกับเพื่อนๆในบ้านเกือบครึ่งปี ส่วนอาวุธมีไว้ป้องกันตัวยังไม่เคยนไปก่อเหตุหรือทำร้ายผู้ใด ส่วนอาวุธปืนสงครามบีบีกันกับว่าชอบเก็ยสะสมส่วนตัวจึงนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดีส่วนกลุ่มวัยรุ่นนำตรวจหายาเสพติดเพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนคดีอื่นๆ ตำรวจจับกุมนางสาวบุณยาพร ดีจันทร์ พร้อมยาอี จำนวน 2,653 เม็ด และไอซ์ หลังได้รับแจ้งว่ามีพัสดุต้องสงสัยซุกซ่อนยาเสพติดส่งเข้าประเทศไทยผ่านบริษัทขนส่งพัสดุระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ระบุต้นทางผู้ส่งจากฝรั่งเศส เมื่อตรวจสอบด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ปรากฎว่าพบยาเสพติดดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในซองที่ทำจากเทปกาวสีเทา จำนวน 15 ซอง จึงขยายผลไปยังผู้รับตามชื่อ คือนางสาวบุณยาพร และยังสามารถยึดยาเสพติดที่ซุกซ่อนอยู่ในเครื่องนวดเท้าไฟฟ้า เพื่อลักลอบส่งออกนอกราชอาณาจักรประเทศปลายทางนิวซีแลนด์ ตำรวจจึงทำการตรวจสอบพบกล่องพสาสติกใสห่อด้วยกระดาษคาร์บอน พบไอซ์ซุกซ่อนอยู่ 560 กรัม จึงตรวจยึดและส่งพนักงานสืบสวนดำเนิคดีต่อไป