Oryor.com ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เผยจากประเด็นในโลกออนไลน์ว่าการรับประทานไข่ที่ต้มนานๆ จนเป็นสีเทาอมเขียว จะทำให้เป็นมะเร็งได้นั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากสีของไข่แดงที่เปลี่ยนไปเป็นเพียงกระบวนการทางเคมีตามธรรมชาติ โดยโปรตีนไข่ขาวที่มีธาตุซัลเฟอร์เป็นองค์ประกอบ เปลี่ยนแปลงไปด้วยความร้อน จนเกิดสารที่ชื่อว่า ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (Hydrogen sulfide) ขึ้น และหากต้มเป็นเวลานานๆ จะทำให้ไฮโดรเจนซัลไฟด์นี้ไปทำปฏิกิริยากับธาตุเหล็กในไข่แดง เกิดเฟอรัสซัลไฟด์ (ferrous sulfide) ขึ้น ซึ่งเป็นสารสีเขียวที่ไม่ใช่สารอันตราย หรือสารก่อมะเร็ง วิธีการหลีกเลี่ยงการเกิดสารสีนี้ คือการต้มไข่ไม่ให้นานเกินไป และให้ไปแช่น้ำเย็นทันที จะหยุดการเกิดปฏิกิริยาได้ ทั้งนี้ ที่ควรจะกลัวมากกว่าคือ การรับประทานไข่อาจจะแฝงอันตรายได้หากรับประทานไข่ในรูปแบบสุกๆ ดิบ ๆ เพราะนอกจากจะย่อยยากแล้ว อาจได้รับเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินอาหาร หรือเชื้อไข้หวัดนกได้อีกด้วย ดังนั้น ควรล้างทำความสะอาดก่อนนำไปปรุงอาหาร และปรุงไข่ให้สุกก่อนรับประทาน จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ